4 นิสัยที่ทําให้เราไม่มีความสุข
*คำเตือน* บทความนี้มีเนื้อหาสำหรับผู้ที่ชอบความทุกข์ ผู้ที่มีความสุขควรได้รับคำแนะนำ และใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เรามักจะเห็นบทความที่พูดถึงวิธีการมีความสุขได้ทั่วไป นั่นเป็นเพราะว่ามนุษย์ตระหนักถึงความสำคัญของการมีความสุขในชีวิต และยังรู้อีกว่าความสุขเป็นสิ่งละเอียดอ่อน ไม่ใช่สิ่งที่จีรังยั่งยืน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดับไป แล้วก็เกิดขึ้นมาได้ใหม่ หากอยากที่จะมีความสุขได้นานขึ้น มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะรักษาความสุขเอาไว้ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเลยที่มักจะไปให้ความสำคัญกับสิ่งตรงข้ามกับความสุขอย่าง ‘ความทุกข์’ มากกว่า หลายคนสามารถมีความทุกข์ได้เก่งยิ่งกว่ามีความสุขเสียอีก วันนี้เลยอยากจะลองมาพูดถึงผู้ที่ชื่นชอบมีความทุกข์ ไม่ว่าจะรู้ตัวก็ดี หรือไม่รู้ตัวก็ดี ว่าพวกเขามักมีนิสัยอย่างไร
นิสัยที่ 1 “เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น”
การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นทำงานเหมือนไม้กายสิทธิ์ เพราะมันสามารถเสกความสุขให้เป็นความทุกข์ได้ในพริบตาเดียว โดยกระบวนการเสกนี้ อาจเกิดได้จากเหตุการณ์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเห็นชีวิตดีๆ ที่ลงตัวของคนอื่นในโซเชียลมีเดียแล้วเกิดอิจฉา อยากได้อยากมีชีวิตแบบนั้นบ้าง หรือการสอบทำคะแนนได้ตามเป้า แต่พอเห็นเพื่อนๆ ได้คะแนนดีกว่า กลับรู้สึกว่าตัวเองไม่เอาไหนขึ้นมาซะอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบใดก็ตาม ถ้ามีการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเกิดขึ้น ปิ๊ง! ไม้กายสิทธิ์จะทำงานทันที สุขอยู่ดีๆ ทุกข์ขึ้นมาเฉยเลย
นี่คือความมหัศจรรย์ของการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ต่อให้เรากำลังมีวันที่ดี เรียนหนังสือได้ดี ทำงานได้สำเร็จ พอใจกับชีวิต แต่พอเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบนี้ขึ้นมา ความสุขของเราก็พร้อมถูกเสกให้หายไปในทันที นี่จึงเป็นหนึ่งนิสัยที่คนมีความทุกข์ชอบเป็นกัน
นิสัยที่ 2 “ดูถูกตัวเอง”
คนที่มีทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะด้วยทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียง การศึกษา หน้าที่การงาน มีแต่คนนับหน้าถือตา รวมไปถึงมีคนรักและครอบครัวที่อบอุ่น แต่หากพวกเขาเหล่านี้มีนิสัยอยู่อย่างนึง คือ ชอบดูถูกตัวเอง เขาจะไม่มีวันมีความสุขได้เลย เพราะความสุขเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่มีใครสามารถมีความสุขแทนเราได้ การสร้างปัจจัยภายนอกให้คนมาชื่นชมเรา จึงไม่สามารถสร้างความสุขให้เราได้ถ้าเรายังมีความคิดดูถูกตัวเองอยู่ ดังนั้น ความสุขจึงเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบด้วยตัวเราเอง
ศัตรูแห่งความสุข คือ นิสัยชอบดูถูกตัวเอง เป็นตัวเราเองทั้งสิ้นที่คอยกร่นด่า ทับถมซ้ำเติมตนเองในเรื่องที่เราทำผิดพลาด ขุดคุ้ยอดีตมาพร่ำบอกตัวเองว่าเรานั้นไม่ดีอย่างไร ทำให้เรากลายเป็นคนที่สายตามืดบอก ไม่มีวันมองเห็นข้อดีและศักยภาพของตัวเอง อย่าลืมว่าคนเดียวที่เราไม่สามารถหลีกหนีได้ก็คือตัวเราเอง แล้วเราจะเลือกมีนิสัยชอบดูถูกตัวเองตลอดไปจริงๆ หรือ
นิสัยที่ 3 “ติดอยู่ในอดีตหรืออนาคตจนลืมที่จะใช้ชีวิตในปัจจุบัน”
เราทุกคนใช้ชีวิตอยู่ในขณะเดียวเท่านั้นก็คือปัจจุบัน เราไม่มีไทม์แมชชีนที่จะย้อนเวลาหรือเดินทางไปอนาคตได้ แต่สมองเรากลับทำงานแบบไทม์แมชชีนตลอดเวลาจนเคยชิน เราจมอยู่กับความผิดพลาดที่เคยทำในอดีต สลับกับกังวลใจต่ออนาคตที่ยังมาไม่ถึง จนลืมที่จะใช้ชีวิตกับปัจจุบัน แบบนี้เท่ากับว่าเรากำลังให้อดีต และอนาคตมาใช้ชีวิตแทนเราอยู่หรือเปล่า แล้วใครจะมาใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันกันล่ะ
อดีตช่วยให้เราเรียนรู้ ส่วนอนาคตทำให้เราได้คิดและวางแผน เป็นสองสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตแต่ก็ไม่ควรหลงลืมความสุข ณ ขณะ นี่คือความสมดุลที่เราต้องเข้าใจและให้ความสำคัญ เพราะปัจจุบัน คือ ช่วงเวลาเดียวที่เราจะกำหนดการกระทำของเราที่ได้รับจากบทเรียนในอดีต และแผนของเราในอนาคตได้
นิสัยที่ 4 “สร้างเงื่อนไขให้ความสุขของตัวเอง”
ตามธรรมชาติแล้วความสุขนั้นเป็นเรื่องง่าย ถ้าเราลองสังเกตเด็กๆ จะเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขามีความสุขง่ายมาก เพียงแค่ได้เล่นของเล่น ได้กินของอร่อย ได้คุยกับเพื่อนๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แต่เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เรากลับสร้างเงื่อนไขมากมายเพื่อที่จะมีความสุข มากจนบางทีความสุขนั้นกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เงื่อนไขที่ว่าอาจจะเป็น เราต้องสวย รวย ชีวิตต้องป๊อป บ้านต้องใหญ่ รถต้องหรู ต้องเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง เราจึงอนุญาตให้ตัวเองมีความสุขได้ การตั้งเงื่อนไขกับความสุขของตัวเองแบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น มีแต่จะทําให้เรามีความสุขได้ยากและน้อยลง จนสุดท้ายเราจะหาความสุขไม่เจอ ไม่มีความสุขในชีวิต นานเข้าอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้เลยก็มี
นี่ไม่ใช่บทความประชดประชันแดกดันผู้ที่มีความทุกข์ เพียงแต่อยากให้ผู้อ่านได้ลองมองมุมกลับ และปรับความคิดดูว่า หากเราลองทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับ 4 นิสัยเหล่านี้ดูล่ะ ชีวิตเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แทนที่จะนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นหรือมัวแต่ดูถูกตัวเอง ลองเป็นเพื่อนที่ดีให้กับตัวเองสักครั้ง อ่อนโยน เห็นใจ และเข้าใจตัวเองให้มากขึ้น ในเมื่อมองตัวเองในแง่ลบเป็นแล้วทำไมจะมองตัวเองในแง่บวกบ้างไม่ได้ มีสติอยู่กับปัจจุบัน และอนุญาตตัวเองให้มีความสุขง่ายๆ ดูบ้าง การเปลี่ยนแปลงนิสัยเหล่านี้ทีละเล็กน้อย อาจไม่ได้ทำให้เราไม่มีความทุกข์อีกเลย แต่อาจทำให้ความสุขนั้น กินพื้นที่หัวใจเรามากจนทำให้ความทุกข์นั้นกลายเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว
ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...
- ไม่มีทางออก
- อาการไม่ดีขึ้น
- พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:
ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ
สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:
แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ
หรือ
Line: @schooloflife
Line: @schooloflife
ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้