ต้องการความยอมรับ
การวิ่งหาการยอมรับจากคนอื่นเป็นเรื่องที่เหนื่อยและไม่มีวันสิ่นสุด
การอยากให้คนอื่นยอมรับเป็นสัญชาตญาณ แต่เป็นสัญชาตญาณที่ต้องฝึก
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ดังนั้นการอยากให้คนอื่นยอมรับนั้นก็เป็นสัญชาตญาณแบบหนึ่ง แต่ก็เหมือนทุกๆสัญชาตญาณ เมื่อเราไม่ได้ฝึกหรือพัฒนามันด้วยความรู้เท่าทันแล้ว มันก็สามารถกลับมาทําร้ายชีวิตเราได้ ยกตัวอย่างเช่น สัญชาตญาณในการชอบกินหวานหรือกินเค็ม กินหวานมากก็เป็นเบาหวาน หรือกินเค็มอย่างไม่รู้ถึงโทษและประโยชน์ของมันก็ทําให้เราเป็นโรคไตได้ นี้ก็ไม่ต่างอะไรจากสัญชาตญาณที่อยากให้คนอื่นชอบหรือยอมรับ ซึ่งก็จําเป็นต้องมีการฝึกมันเพื่อไม่ให้สัญชาตญาณนี้มาครอบงําชีวิตเรา
การฝึกนี้มี 2 ด่าน
- การศึกษาให้เข้าใจถึงคุณและโทษที่แท้จริงของการได้การยอมรับ ซึ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่เราทําอยู่โดยการอ่านและศึกษาคุณและโทษของมัน (ภาคทฤษฎี)
- การรู้เท่าทันสัญชาตญาณของเรา เพื่อให้เราสามารถเลือกและพิจราณาได้ว่าเราจะทําตามมันหรือไม่ แทนที่จะทําตามมันตลอด นี้ก็เป็นเรื่องการปฎิบัติที่จะเอาความรู้ที่เรามีไปใช้จริง เป็นการฝึกโดยการเอาชนะใจตัวเองอย่างสม่ำเสมอและทดแทนความรู้สึกหรือสัญชาตญาณด้วยความรู้ เพื่อให้จิตใจเราเป็นอิสระจากสัญชาตญาณ(ภาคปฎิบัติ)
การวิ่งหาการยอมรับจากคนอื่นเป็นเรื่องที่เหนื่อย ไม่มีวันสิ้นสุด และ รักษายาก
สมมุติว่า เราเกิดมาจมูกเล็ก คนอื่นก็มาบอกว่าเราน่าจะจมูกใหญ่นะ เราก็เลยไปทําจมูกให้ใหญ่ พอทําเสร็จ ก็มีคนมาบอกเราอีกว่า เออ..จมูกเราใหญ่ไปนะ น่าจะจมูกเล็กกว่านี้
นี้คือความจริงของชีวิต ความจริงที่ว่าไม่ว่าเราจะเป็นอะไรหรือดีขนาดไหน สุดท้ายเราก็ไม่สามารถทําให้ทุกคนชอบหรือยอมรับเราได้
อันนี้เราคิดง่ายๆแค่เรื่องจมูก เรื่องเดียว และมีคนตัดสินเราอยู่แค่สองคน คนหนึ่งชอบจมูกเล็ก อีกคนชอบจมูกใหญ่ แต่ชีวิตจริงมันซับซ้อนกว่านี้มาก เพราะมันไม่ได้มีแค่เรื่องเดียว มันมีเรื่องเป็นร้อยๆเรื่องที่คนอื่นสามารถจะตัดสินเราได้ และชีวิตเราก็ไม่ได้รู้จักคนเพียงแค่สองคน ซึ่งอาจจะมีสายตาที่มองมาหาเราอีกเป็นร้อยเป็นพันคู่
สรุปก็คือ มีเรื่องร้อยเรื่องกับสายตาคนอื่นอีกเป็นร้อยคู่ที่อยากจะตัดสินเรา ถ้าเราคิดเป็นสมการง่ายๆ ร้อยคูณร้อยก็คือหมื่นเรื่องที่เราต้องคิดเพื่อให้ทุกคนชอบเราในทุกๆเรื่อง แค่เห็นตัวเลขก็เหนื่อยแล้ว
ซึ่งต่อให้เราทําสิ่งต่างๆเพื่อให้คนอื่นชอบเราได้เสร็จจริงแล้ว พอเวลาผ่านไปความชอบของคนก็จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา.. ค่านิยม และ วัฒนธรรม ต่อให้เป็นเรื่องเดียวกัน สิ่งเดี่ยวกัน เหมือนเดิมทุกอย่างก็ตาม แต่สุดท้ายคนที่เคยชอบเราก็กลับไม่ชอบ และอาจเป็นไปได้ที่คนไม่ชอบเราก็อาจจะกลับมาชอบเรา ซึ่งหาความแน่นอนอะไรไม่ได้ แล้วเมื่อเป็นอย่างนี้ เราก็ต้องมาเริ่มวงจรเดิมๆใหม่อีกเพราะสิ่งที่เราต้องการคือความยอมรับความชื่นชมจากคนอื่น
เพราะเหตุนี้ การหาความยอมรับจากคนอื่นจึงเป็นเรื่องที่ยาก และไม่ต่างอะไรจากการวิ่งไล่จับเงาของตัวเอง
ต่อให้เราดีเลิศขนาดไหน ก็ยังต้องมีคนที่เกลียดเราอยู่ดี ต่อให้เราเป็นพระพุทธเจ้าก็ยังจะต้องมีพระเทวทัตคอยตามรังควาน มันคือความจริงที่หนึไม่พ้น ดังนั้นแทนที่จะวิ่งไล่ตามหาความยอมรับหรือคําชมจากทุกคน มันง่ายกว่ามาก ถ้าเราจะเอาเวลาไปใช้ชีวิตในแบบที่เราชอบ โดยไม่ต้องสนใจสายตาคนอื่นเลยยังดีกว่า
หาความสุขไม่ได้เมื่อค่าของเราขึ้นอยู่กับสายตาคนอื่น
ไม่มีใครอยากที่จะรู้สึกมีความสุขวันหนึ่งแล้วอีกวันหนึ่งก็รู้สึกทุกข์ สลับไปสลับมา ทุกคนก็อยากที่จะมีความสุขในทุกๆเวลา แต่เมื่อเราสนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร อยากให้คนอื่นยอมรับและมองเราแต่ในแง่ดีตลอด เราก็เริ่มติดภาพลักษณ์ของตัวเองที่คนอื่นมีต่อเรา บางทีเพียงเพื่อรักษาภาพพจน์นี้ไว้ เรายอมที่จะซาแซงเล่นละครและทําอะไรที่ไม่ใช้ตัวเรา เหตุก็เพราะว่าเราสนภาพพจน์ที่คนอื่นให้เรามากกว่าที่ความจริงที่เราเห็นกับตัวเอง
ต้องการความยอมรับและชื่นชอบจากคนอื่นจนสูญเสียตัวตน
ต่อให้เราไม่ได้อยากไปเรียนต่อ ไม่มีเงิน ไม่ได้ชอบเรื่องวิชาการ แต่พอเห็นเพื่อนคนอื่นเขาไปเรียนกัน เราก็กลัวน้อยหน้าเขา กลัวจบสูงไม่เท่าเขา ก็เลยต้องฝืนใจไปเรียนทั้งๆที่อาจจะไม่ได้อยากไป หรือบางทีเพื่อนชวนเราไปเที่ยว ซึ่งเราเองก็ไม่ได้อยากไป เพราะต้องอ่านหนังสือเตรียบสอบ หรือ มีงานที่ต้องทํา แต่เพราะเรากลัวโดนทิ้งหรือตัดออกจากกลุ่มเราก็ไป
จะเห็นได้ว่าหลายๆครั้งเราทําทุกอย่างเพื่อได้มาซึ่งการยอมรับและความชื่นชมจากคนอื่นแต่สิ่งที่เราไม่เคยได้ทําก็คือ ทําสิ่งที่จริงๆแล้วเราต้องการ ถ้าชีวิตเราถูกกําหนดโดยสายตาคนอื่นตลอดเวลา แล้วสรุปใครกันแน่ที่กําลังใช้ชีวิตเรา อันนี้คือข้อเสียที่ถ้าไม่ระวังก็สามารถทําให้เราเสียอิสระภาพ เสียความสุข เสียเวลา เสียสิ่งที่เราเห็นว่ามีค่า และ เสียคุณค่าในตัวเราเอง เพียงเพราะเราต้องการความยอมรับจากคนอื่น
หาค่าในตัวเราให้เจอ
บางทีเหตุผลที่เราต้องไปหาการความยอมรับจากคนอื่นก็เพราะว่าเราหาค่าในตัวเองไม่เจอ อันนี้สําคัญมาก เราควรรู้จักค่าของเราเอง การทําเช่นนี้จะทําให้เรามีความหนักแน่นและไม่ขึ้นลงหรือไปตามมุมมองหรือคําพูดของคนอื่น
คนที่ต้องการความยอมรับจากคนอื่นก็คือคนที่ยังยอมรับตัวเองไม่ได้
ถ้าเรายอมรับตัวเองได้แล้ว เราจะไม่ระแวงว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร คนที่ไม่ชอบหน้าตาตัวเองและคิดว่าตัวเองไม่สวย ไปไหนก็จะมีความคิดว่าคนอื่นเขากําลังมองว่าเราไม่สวย นี้ก็เพราะว่าจิตใจเราจดจ่อและกลัวว่าคนอื่นจะตัดสินเรา เราเลยรู้สึกว่าเราต้องพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นโดยการทําตัวให้สวยเพื่อได้การยอมรับ แต่จริงๆแล้วต้นตอก็คือเราเองต่างหากที่ยอมรับตัวเองไม่ได้ เพราะถ้าเรายอมรับตัวเองได้ ไม่ว่าเราจะเป็นคนสวยหรือขี้เหร่ เราจะไม่สนว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เพราะเราโอเคกับตัวเองแล้ว มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เราให้ค่าหรือรู้สึกว่ามันเป็นปมด้อยแต่อย่างใด เลิกโหยหาการยอมรับจากคนอื่นและเริ่มหาการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น
หาต้นตอที่แท้จริงที่ทําให้เราอยากได้การยอมรับ
เหตุผลที่เราต้องการความยอมรับจากคนอื่นมีมากมายแต่เราก็ควรรู้จักมันไว้จะได้เห็นว่าเราควรหรือไม่ควรหาการยอมรับนั้น ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการยอมรับจากคนอื่นเพราะเรา...
- อยากให้ตัวเองมีค่าในสายตาคนอื่น
- อยากมีอํานาจเหนือคนอื่น
- อยากเป็นที่รัก
- อยากได้ความรัก
- อยากได้ความสนใจ
- อยากได้การสนองego
เพราะเพียงแค่เราเห็นต้นตอที่แท้จริงแล้ว เราก็อาจจะรู้สึกขยะแขยงจนไม่อยากทําตามมัน ไม่มีใครชอบคนที่หิวแสง ไม่มีใครชอบคนที่เรียกร้องความสนใจ หรือ อยากเป็นคนพิเศษกว่าคนอื่น
เขายอมรับก็ดี ไม่ยอมรับก็เรื่องของเขา
คนมีหลายประเพศ หลายความคิด หลายความต้องการ ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะหวังว่าในชีวิตเราทุกคนต้องยอมรับเรา ถ้าเขายอมรับเราอย่างที่เราเป็นมันก็ดี แต่ถ้าเขายอมรับเราไม่ได้เราก็แค่เข้าใจว่าบางทีคนเราก็เข้ากันไม่ได้ มันไม่ใช่เพราะเราดีไม่พอหรืออย่างไร บางทีคนดีมากๆก็มีคนเกรียดมากมาย หรือคนที่แย่มากๆก็ยังมีคนชื่นชม เพราะเหตุนี้การยอมรับมันไม่ใช่เรื่องของเรา มันเป็นคนของคนอื่น จะไปอยากไปหวังไม่ได้ ถ้าเขายอมรับอย่างที่เราเป็นก็ดี ถ้าไม่ยอมรับก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา
ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...
- ไม่มีทางออก
- อาการไม่ดีขึ้น
- พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:
ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ
สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:
แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ
หรือ
Line: @schooloflife
Line: @schooloflife
ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้