ชีวิตขาดสมดุล
ทําไมต้องมีสมดุลในชีวิต
การหาสมดุลให้กับชีวิตนั้นสําคัญมากกว่าที่เราคิด หลายคนมีความเชื่อว่าการที่เราจะประสบความสําเร็จ เราจําเป็นต้องทุ่มเท ต้องทํางานอย่างไม่หลับไม่นอน ต้องให้เวลากับงานจนไม่สามารถมีเวลาให้กับตัวเองหรือคนที่เรารัก ต้องทําทุกอย่างเพื่อเป้าหมายจนทิ้งความสุขหรือไม่ดูแลสุขภาพของตัวเอง แต่ความเชื่อแบบนี้ไม่จริงเสมอไป เพราะเมื่อเราทุ่มเทจนชีวิตไม่มีสมดุล มันก็อาจจะส่งผลร้ายจนทําให้เราล้มเหลวและสุดท้ายเราจะไม่ได้สิ่งที่เราต้องการเช่นกัน
ลองนึกภาพคนที่แบกของหนัก คนหนึ่งแบกอย่างไม่สมดุล นํ้าหนักเอนไปข้างหนึ่งข้างไดมากเกินไป ส่วนอีกคนแบกของเหมือนกันแต่ว่าแบกอย่างมีสมดุลเราคิดว่าคนไหนจะแบกไปได้ไกลกว่ากัน? คําตอบมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าคนที่มีสมดุลกว่าก็ต้องแบกไปได้ไกลกว่า การมีสมดุลในชีวิตนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ เวลาเราทําอะไร ถ้าทําแล้วไม่ยืนระยะ สุดท้ายมันก็ไม่สําเร็จ เมื่อไม่มีสมดุลในชีวิตที่ดีเราก็ไม่มีความสุข พอเป็นอย่างนั้นนานๆเข้าก็อาจจะมีอาการ burn out หรือ หมดไฟ แล้วอย่างนี้มันจะไปถึงจุดหมายหรือประสบความสําเร็จตามที่เราต้องการได้อย่างไร? เพราะเหตุนี้ การมีสมดุลในชีวิตที่ดีนั้นสําคัญมากและเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม
การมีสมดุลที่ดีเริ่มต้นการจากฟังตัวเอง
การมีสุมดุลย์ที่ดีเริ่มต้นการจากฟังตัวเอง ฟังร่างกายที่อาจจะต้องการพัก ฟังจิตใจที่อาจจะมีเสียงเรียกร้องอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ ถ้าเราเลือกที่จะไม่ฟัง มัวแต่หมกมุ่นกับงาน ผลรับก็คือ ร่างกายเราเองก็ทรุดโทรม และจิตใจเราเองก็จะอ่อนแอลงไปทุกๆวัน ดังนั้นลองฟังใจเราบ้างว่าจริงๆแล้วมันขอร้องอะไรจากเราอยู่ เพื่อที่เราจะได้หาสุมดลย์ในชีวิตเราได้เจอ
อีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้เราหาสมดุลของชีวิตเราเองก็คือการกลับเป็นตัวเองอย่างแท้จริง คนหลายคนเครียดเพราะกดดันตัวเองให้ไปข้างหน้า หลายคนรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอเมื่อเทียบกับคนอื่น หลายคนกดดันตัวเองเพราะชีวิตยังไม่เป็นไปตามเป้าหรือตามที่คาดหวัง อย่างนี้เขาไม่ได้เรียกว่าเป็นตัวของตัวเอง อย่างนี้เขาเรียกว่า เกลียดตัวเอง เพราะเราไม่ได้ชอบในสิ่งที่ตัวเองเป็นหรือมีอยู่ในขณะปัจจุบัน เราไม่ได้ยอมรับตัวเอง เราไม่ได้เห็นตัวเองอย่างที่ตัวเองเป็นอยู่ แต่เรากลับเอาความอยากหรือความโลภของเราเองมากดดันและตัดสินตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่มีวันหาสมดุลชีวิตเจอ และ สัญญานที่ชัดที่สุดที่บอกว่าเราไม่มีสมดุลก็คือการที่เราไม่มีความสุข
การกลับมาเห็นตัวเองอย่างที่ตัวเองเป็นและการรับฟังเสียงเรียกร้องของตัวเองให้มากขึ้นสามารถช่วยให้เรากลับมาและรักษาความสมดุยล์ของชีวิตได้ มันจะช่วยให้เราเห็นและปรับสิ่งที่มากไปหรือน้อยไปในชีวิตให้กลับมามีความสมดุลตามธรรมชาติของชีวิต หรือสรุปสั้นๆอีกวิธีหนึ่งก็ได้ว่า “ไม่ขี้เกียจ แต่ก็ไม่ได้เคร่งเครียด เอาแค่พอดี” แค่นี้ชีวิตก็จะดีและมีความสุข เป้าหมายที่เรามีก็คือมุ่งหน้าไปได้อย่างเต็มที่ เพียงแค่เรามีสมดุลชีวิตที่ดี (บทความนี้สนับสนุนโดย NEW BALANCE 555 ล้อเล่น!)
เวลาที่ควรเปลี่ยนชีวิตมากที่สุดคือตอนนี้
ถ้ามีเวลาตอนนี้ ลองตอบตัวเอง 3 คําถามนี้เพื่อปรับความสมดุลในชีวิตเราให้ดีขึ้น:
- ชีวิตเราสมดุลหรือยัง?
- แล้วชีวิตที่สมดุลควรเป็นอย่างไร?
- เราทําอะไรได้บ้างตอนนี้เพื่อให้ชีวิตเรามีสมดุลที่ดีขึ้น?
ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...
- ไม่มีทางออก
- อาการไม่ดีขึ้น
- พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:
ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ
สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:
แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ
หรือ
Line: @schooloflife
Line: @schooloflife
ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้