การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

206603 ศุภกร เลาหสงคราม

นักจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychologist)


ทําอย่างไรถึงจะเลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้

1.เห็นผลเสียของการหาค่าตัวเองจากการเปรียบเทียบให้ชัดเจน

มนุษย์ทุกคนต่างอยากรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองนั้นมีค่า ซึ่งวิธีการที่แต่ละคนหาค่านั้นก็มีมากมาย บางคนที่เอาทรัพย์สินมาเป็นตัววัดค่า บางคนก็หาค่าตัวเองจากการยอมรับหรือคําชม บางคนก็เอาค่าของชีวิตไปผูกกับงานและความสําเร็จ หรือ บางคนก็หาค่านี้จากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

มันสําคัญที่เราจะต้องรู้ว่าตอนนี้วิธีที่เราหาค่าให้กับชีวิตเราเองคืออะไร แล้วแต่ละวิธีนั้นมันมีข้อดีหรือข้อเสียอะไรต่อชีวิตเราบ้าง เพื่อที่เราจะได้เลือกวิธีหาค่าให้กับตัวเองได้ดีที่สุด

สําหรับการหาค่าตัวเองจากการเปรียบเทียบแล้ว แน่นอนว่ามันก็มีโทษมากมายที่เราเองอาจจะทราบและยังไม่ทราบ ซึ่งโดยสรุปแล้วอาจจะมีตามนี้

  • ใช้ชีวิตมีแต่วิ่งไล่แต่ไม่เคยถึง
  • หาความสุขไม่เจอ
  • ความสุขขึ้นๆลงๆ แล้วแต่ว่าเปรียบเทียบกับใคร
  • เหนื่อย
  • รู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอตลอดเวลา
  • ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการอะไร
  • ไม่มีจุดยืน
  • ไม่เคยรู้จักค่าตัวเอง
  • ทําให้เรากลายเป็นคน toxic

ซึ่งต่อไปนี้เรามาจะแจกแจ้งแต่ละข้อ เพื่อช่วยให้เราเห็นข้อเสียของมันให้ชัดเจนมากขึ้น

ข้อเสียแรกของการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นก็คือ การที่เราจําเป็นจะต้องเปรียบเทียบตัวเองไปเลื่อยๆอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ยกตัวอย่างเช่น วันนี้เราด่อยกว่าเพื่อน เพื่อนประสบความสําเร็จกว่าเรา เราก็รู้สึกแย่ เราก็เลยพยายามจนวันหนึ่งเราดีกว่าเขา แต่พอเราไปอยู่ในสังคมที่ดีขึ้น เราก็เจอคนอื่นอีกที่ดีกว่าเรา เราก็กลับมารู้สึกด่อยอีกเหมือนเดิม แล้วเราก็ต้องวิ่งต้องสู้เพื่อดีกว่าหรือเท่าคนอื่นอีก อย่างไปเลื่อยๆ

เพราะเหตุนี้มันจึงโยงไปถึงข้อเสียข้อต่อไป นั้นก็คือการที่เราหาความสุขไม่เจอ เมื่อเราใช้ชีวิตไปตามความอยากที่ไม่มีวันสิ้นสุด มันก็ไม่มีจุดไหนที่เรารู้สึกว่าเราสามารถพอใจกับตัวเองได้ ต่อให้เราได้สิ่งที่เราต้องการมา หากเรายังเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่ พอเราเห็นสิ่งที่คนอื่นเขามีแต่เรายังไม่มี สิ่งที่เราได้มา จากตอนแรกที่เราพอใจ ตอนนี้ก็เริ่มเฉยๆแล้ว เริ่มไม่ได้พอใจกับมันแล้ว เริ่มอยากได้อย่างสิ่งที่คนอื่นเขาได้เขามีแล้ว สุดท้ายความไม่พอใจก็กลับแทนเหมือนเดิม เหตุก็เพราะความสุขของเรานั้นมันเลื่อนลอยไปตามการเปรียบเทียบเสมอ มากไปกว่านั้น

นอกจากความสุขที่ไปขึ้นอยู่กับคนอื่นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะสําคัญไม่แพ้กัน ซึ่งก็เป็นข้อเสียข้อที่ 3 ก็คือการที่เราหาค่าของตัวเองไม่เจอจนบางทีอาจจะรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่า วิธีที่จะทําให้เรารู้สึกด่อยค่าได้ไวที่สุด ต่อให้เรานั่งอยู่เฉยๆ ก็คือการที่เราไปหาค่าตัวเองโดยการเปลี่ยนเทียบกับคนอื่น และความจริงของชีวิตก็คือมันก็มีคนที่ดีกว่าเราอยู่เสมอ ดังนั้นหากเราชอบที่จะเปรียบเทียบตัวเองอยู่เสมอ แน่นอนมันก็จะมีคนทีดีกว่าเราเสมอ ก็เท่ากับว่าเราก็ดีไม่พออยู่ตลอดเวลา

ข้อเสียข้อที่ 4 ก็คือการที่เราอารมณ์ของเรานั้นขึ้นๆลงๆไปตามคนอื่นที่เราเปรียบเทียบด้วย หากเราอยู่ในที่ที่ทุกคนด่อยการเรา เราก็ดีใจ เราก็รู้สึกดีกับตัวเอง เราก็ไปอวดหรือข้มเขา แต่พอวันไหนเราไปอยู่ในสังคมที่ทุกคนดูดีกว่าเรา อยู่ดีๆเราก็รู้สึกด่อยค่า รู้สึกขายหน้าตัวเอง และ ไม่กล้าไปเข้าสังคม ตกลงเราควรรู้สึกดีหรือแย่กับตัวเอง วันหนึ่งเราอาจจะมีความสุขดี แต่พอเราต้องไปเจอคนอื่นที่ดีกว่า เรากลับรู้สึกเหมือนชีวิตพัง เวลาเห็นหรือได้ยินว่าคนอื่นชีวิตดีอย่างไร คนที่ชอบและยึดติดค่าที่เราได้จากการเปรียบเทียบจะมีอารมณ์พวกนี้เป็นประจํา วันหนึ่งอาจจะขึ้นๆลงๆได้แล้วแต่ว่าเราเปรียบเทียบกลับใคร

ข้อเสียข้อที่ 5 ก็คือการที่เราไม่เคยรู้ว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร เพราะเรามัวแต่ไปหาค่าตามคนอื่น พอเห็นคนอื่นมีหรือเป็นอะไร เราก็อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนไปเรียนเมืองนอก เราก็กลัวน้อยหน้า ก็เลยไปเรียนบ้าง ทั้งที่เราเองอาจจะไม่ได้มีความจําเป็นหรือเห็นประโยชน์ของมัน นี้ทําให้เราเองไม่เคยคิดอะไรเอง ไม่เคยฟังเสียงของสิ่งที่เราต้องการ และสุดท้ายการที่เราทําอะไรไปตามคนอื่นแบบนี้ก็ทําให้เราได้ชีวิตที่จริงๆแล้วเราไม่ได้ต้องการ ซึ่งก็เป็นข้อเสียข้อที่ 6

ข้อที่ 7 ก็คือการที่มันทําให้เราไม่รู้จักค่าตัวเอง เพราะเราไปหาค่าของตัวเองจากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เราเลยไม่เคยที่จะฝึกที่จะให้ค่ากับตัวเอง ชีวิตเราต้องใช้แบบไหนเพื่อให้ชีวิตเราเองมีค่าในสายตาตัวเอง? อะไรคือความพอใจในชีวิตของตัวเอง? เราไม่เคยมีคําตอบพวกนี้ให้กับตัวเราเอง ดังนั้นค่าของเราจึงขึ้นอยู่กับคนอื่นเสมอ

ข้อสุดท้าย ข้อที่ 8 การที่เราหาค่าของตัวเองจากการเปรียบเทียบ มันทําให้เรากลายเป็นคน toxic ต่อคนอื่น เพราะเวลาเราอยู่กับคนอื่น เราก็มีความอยากที่จะดีกว่าคนอื่น เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ พอตัวเองด่อยกว่าก็อิจฉาคนอื่นอีก การเป็นคนแบบนี้ก็ทําให้เราเป็นคนไม่น่ารักและไม่มีใครอยากคบหรือเข้าใกล้

2. ค่าที่ได้จากการเปรียบเทียบนั้นไม่ใช่ค่าที่แท้จริง

เมื่อเรามาศึกษาดูดีๆแล้วเราจะเห็นว่าค่าที่เราได้จากการเปรียบเทียบนั้น จริงแค่ตอนที่เราเปรียบเทียบตัวเองกับอะไรบางอย่าง คําพูดนีั้หมายความว่าอย่างไร? หากเราเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าเรา แน่นอน เราก็จะรู้สึกด่อย ซึ่งส่วนมากแล้ว เราก็จะรู้สึกอย่างนั้นเพราะคนส่วนมากจะเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ดีกว่าเรา แต่ถ้าเราเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่ด่อยกว่าเรา เช่น คนที่อยู่ในประเทศกันดาร คนที่อาจจะเกิดมาแล้วโชคไม่ดีเท่าเรา เราก็จะรู้สึกว่าเราดีกว่าเขา แล้วตกลงเราดีหรือเราด่อยกันแน่? เราไม่สามารถสรุปได้เพราะคําตอบก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเปรียบเทียบตัวเองกับใคร

ดังนั้นการเปรียบเทียบไม่ได้ทําให้เราดีขึ้นหรือแย่ลง เราก็ยังเป็นคนเดิม หากแต่ว่าค่าของเรานั้นแค่ขึ้นลงไปตามสิ่งที่เราเปรียบเทียบด้วยเท่านั้น ค่าที่เราได้จากการเปรียบเทียบนั้นจึงจริงแค่ตอนเปรียบเทียบ หากเราเป็นมนุษย์คนเดียวที่อยู่ในโลก เราก็จะไม่ได้ดีหรือแย่ เราก็แค่เป็นตัวของเราเอง

เพราะเหตุนี้การที่เราดีกว่าหรือแย่กว่าคนอื่นก็ไม่ได้บ่งบอกอะไรเกี่ยวกับค่าจริงๆของเรา ซึ่งถ้าเราไปยึดติดกับค่าที่เราได้จากการเปรียบเทียบ เกมส์ที่เราต้องเล่นก็กลายเป็นเกมส์ที่ไม่มีวันสิ้นสุดหรือหาจุดที่เราพอใจและมีความสุขกับตัวเองไม่เจอ

3.รู้จักสาเหตุที่ทําให้เราไม่สามารถเลิกเปรียบเทียบ

เรายอมให้คนอื่นดีกว่าเราได้ไหม? เราเลิกที่จะอยากไปดีกว่าคนอื่นได้ไหม? ถ้าเราไม่ดีเท่าคนอื่นเรายอมรับสายตาคนอื่นที่จะมองมาหาเราด้วยความเหยียดได้ไหม? หากคนอื่นเขามาดูถูกเราหรือมองเราในแง่ลบ หรือเลิกมองเราในแง่ดีอย่างที่เคย เราพร้อมหรือยังที่จะยอมรับสิ่งเหล่านั้น? หากคําตอบคือไม่ได้ แน่นอนมันก็แปลว่าเรายังมีอะไรต้องพิสูจน์ เรายังอยากมีค่า เรายังมีเหตุผลที่จะต้องเปรียบเทียบ คนที่ไม่มีอัตตาหรืออีโก้ ไม่ว่าใครจะดีกว่าหรือเขาจะด่อยกว่าก็ไม่ได้มีความหมายอะไรสําหรับเขา เพราะเขาไม่ได้อยากดีกว่า กลัวด่อยกว่า หรือกลัวที่จะไม่ได้เหมือนคนอื่น ตราบใดเรายังยึดติดค่าของตัวเราอยู่ และยังหาค่านั้นจากการเปรียบเทียบ เราก็จะไม่สามารถเลิกเปรียบเทียบได้

4. ให้ค่ากับชีวิตเราเอง

การที่เราจะเลิกจากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้ นอกจากที่เราจะเห็นโทษของมันแล้วอย่างชัดเจนแล้ว เราต้องหาช่องทางหรือวิธีการที่ดีกว่าในให้คุณค่าของชีวิตเราเองด้วย โดยปกติแล้วไม่เคยมีใครมาสอนให้เราให้ค่ากับชีวิตเราเอง ดังนั้นมันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทําให้กับตัวเราเอง

ขั้นตอนแรก เราจําเป็นต้องกลับมาทบทวนชีวิตเราก่อนว่าอะไรสําคัญสําหรับชีวิตเรา และชีวิตแบบไหนที่เรารู้สึกว่าใช้แล้วจะทําให้ชีวิตเรามีความหมาย ซึ่งคําตอบนี้อาจจะไม่ได้คิดออกได้เลยภายในวันสองวันและจําเป็นต้องใช้เวลา ดังนั้นเราจําเป็นต้องทดลองว่าวิธีวัดค่าตัวเองแบบไหนที่ดีที่สุดสําหรับเราเอง อย่างไรก็ตามเป้าหมายของเราก็คือการฝึกที่จะให้ค่ากับชีวิตเราเอง ดังนั้นต่อให้คําตอบของเราอาจจะไม่ดีมาก มันก็ยังดีกว่าที่เราจะไปขโมยการวัดค่าของคนอื่นมาใช้วัดตัวเองโดยที่เราไม่ได้ไตรตรอง

อีกปัญหาที่หลายคนอาจจะพบก็คือการที่เรารู้ดีว่าอะไรดีอะไรไม่ดีแต่เราเองกลับขาดความมั่นใจ ศรัทธา และ ความหนักแน่นในความคิดของตัวเอง จนสุดท้ายต่อให้ความคิดของเราดีขนาดไหน เราก็ไม่เชื่อตัวเอง และเชื่อคนอื่นมากกว่าจนต้องกลับไปเอาวิธีวัดค่าของคนอื่นมาตัดสินตัวเองอีก อันนีัก็อยากให้เราระวัง มีความคิดเป็นของตัวเองและให้เกียรติตัวเองให้มากขึ้น

วิธีหนึ่งที่อาจจะช่วยให้เรามีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้นได้ก็คือการที่เราทําอะไรด้วยตัวเองให้มากขึ้น ไม่ว่าเราจะทําอะไร ไปที่ไหน พูดอะไร มีความคิดแบบไหน อยากใช้ชีวิตอย่างไร จนไปถึง ใส่เสื้อผ้าอะไร อยากให้เราเป็นคนคิดและตัดสินเองว่าอะไรดีหรือไม่ดี อย่าแต่ไปฟังคนอื่น ว่าอะไรดีหรือไม่ อย่าไปพึ่งพาคนอื่นเสมอ อย่าไปรอให้คนอื่นมาบอกว่าต้องทําอะไรหรือไม่ทําอะไร

วิธีปฎิบัติ

  • เห็นข้อเสียของการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นให้ชัดในชีวิตประจําวัน
    • รู้จักวิธีที่เราให้ค่ากับชีวิตเราเอง
    • หากเราชอบเปรีบเทียบตัวเอง ให้เราพิจารณาและศึกษาอย่างจริงจังว่าข้อดีข้อเสียมันจริงๆแล้วคืออะไร

  • เมื่อเห็นข้อเสียของมันแล้ว ให้เราหัดเห็นและเตือนจิตใจของตัวเองในชีวิตประจําวัน
    • เวลาที่ไปอยากได้เหมือนหรือของคนอื่น
    • เวลาที่รู้สึกว่าด่อยค่า (จริงๆเราไม่ได้ด่อยค่า เราแค่ไปหาค่าจากการเปรียบเทียบ)
    • เวลาที่เรารู้สึกดีใจ ใจฟู อยากอวด ตอนที่เราดีกว่าคนอื่น
    • เห็นจิตใจที่อยากดีกว่าหรือเท่าคนอื่น อยากเอาชนะ อยากได้แบบเขา
    • เห็นจิตใจที่กลัวว่าต้วเองจะด่อยกว่าคนอื่น
    • ถ้ายังเลิกนิสัยเปรียบเทียบไม่ได้อย่างน้อยขอให้เราลองเปรียบเทียบกับคนที่ด่อยกว่าเรา เพื่ออย่างน้อยให้เราหาความพอใจในตัวเองให้เจอก่อน

  • เห็นพฤติกรรมตัวเองที่ส่งเสริมให้เรายิ่งเปรียบเทียบ
    • การไปอยากรู้อยากเห็นชีวิตชาวบ้าน ใน social
    • ออกห่างหรือตัดขาดจากคนหรือสังคมที่ส่งเสริมให้เราเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
    • เลิกพฤติกรรมตัวเองที่ส่งเสริมให้เรายิ่งเปรียบเทียบ
      • การทําอะไรไปตามความกลัวว่าคนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร
      • การทําอะไรบ้างเพื่อเสริมอัตตาตัวตน เช่น ใช้ของแพงๆเพราะกลัวคนอื่นดูถูก ใช้ของแพงๆเพื่ออวดหรือแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองมีค่า

  • หาค่าของตัวเองให้เจอ
    • ทบทวนและเขียนมันลงมา รู้ว่าเราเองต้องการอะไรจากชีวิตเราเอง เราต้องกําหนดค่าของชีวิตเราเอง
    • ให้ค่ากับตัวเอง
    • หนักแน่นกับสิ่งที่เราต้องการ

ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...

  1. ไม่มีทางออก
  2. อาการไม่ดีขึ้น
  3. พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:

แบบฟอร์ม Feedback

ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ

สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:

แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ

หรือ

Line: @schooloflife

Line: @schooloflife

ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง