หาแฟนไม่ได้
เข้าใจว่าการหาคู่นั้นเหนื่อยยากและต้องมีความเจ็บปวดบ้างเป็นธรรมดา
การหาคู่ของคนแต่ละคนนั้นเป็นเรื่องยากโดยธรรมชาติ สมมุติว่าใน 100 คนที่เราเจอในชีวิต อาจจะมีเพียงแค่ 10 คนเท่านั้นที่เราสนใจอยากที่จะทําความรู้จัก ซึ่งใน 10 คนนั้น เราก็ต้องใช้เวลาและพลังเป็นอย่างมากเพื่อทําความรู้จัก และเมื่อรู้จักแล้วก็อาจจะเหลือเพียงแค่ 2-3 คนที่เราชอบและน่าจะเข้ากับเราได้ ซึ่งใน 2-3 คนนั้นก็อาจจะไม่ได้ชอบเราเลยในที่สุด และเมื่อไม่สมหวังก็ต้องเริ่มต้นใหม่อีกรอบ
การที่เราได้ลงแรง... เวลา.. และความรู้สึก ให้ใครบางคนแต่อาจจะไม่ประสบความสําเร็จนั้นมันก็เป็นธรรมดาที่ทำให้เรารู้สึกผิดหวัง.. เศร้า.. ท้อ.. หรือ เหนื่อย บางคนก็เปรียบความรักเป็นเหมือนดอกกุหลาบ ที่จะต้องเจอหนามของความผิดหวังหลายๆครั้งก่อนที่จะได้ความรักที่เราต้องการมาครอบครอง
จะเห็นได้ว่ากว่าที่เราจะประสบความสำเร็จในเรื่องความรักนั้นความผิดหวังมักมาก่อนเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ยากจะหลีกเลี่ยง ดังนั้น เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าการหาคู่เป็นเรื่องยาก เราจึงควรเตรียมใจไว้ให้เวลากับมัน และไม่ไปหวังผลหรือเร่งที่จะอยากจะได้เร็วๆ และเมื่อเราทําใจไว้ถูกต้องแล้ว เราก็จะเข้าใจและไม่ท้อ เสียใจ หรือ หมดหวังง่ายๆ
ความรักมีค่ามากกว่าความเจ็บปวดจากความรักเสมอ
ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดหรือยากลําบากเพียงใดก็ตาม การได้มีความรักที่ดีมาครอบครองก็ยังเป็นสิ่งที่สวยงามและมีค่าต่อชีวิตของเราเสมอ สําหรับคนบางคน ความรักอาจจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา แม้จะรู้ว่าการมีความรักจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดก็ตามก็ไม่คิดล้มเลิก เพราะความรักที่ดีนั้นสามารถทําให้เรามีความสุขได้มากจนสุดท้ายทําให้เราลืมความเจ็บปวดที่เราเคยเจอและสามารถมองข้ามเรื่องราวต่างๆไปได้หมด จึงมีความเชื่อที่ว่า ความรักมีค่ามากว่าความเจ็บปวดจากความรักเสมอ
การหาคู่เป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร
บางคนเจอคู่ตั้งแต่อายุน้อย แต่บางคนเจอตอนอายุมากแล้ว บางคนไม่ได้พยายามก็เจอ บางคนพยายามเท่าไรก็ไม่เจอ บางคนพอเริ่มหาคู่ปุ๊บก็เจอปั๊บ แต่บางคนก็ใช้เวลานานเป็นปีๆกว่าจะเจอก็มี ดังนั้นสิ่งที่จะสื่อก็คือ ความรักนั้นไม่เข้าใครออกใคร จะไปคาดหวัง คิดเอาเอง จะไปอยาก ไปเร่ง มันไม่ได้ เพราะมันไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเรา หวังไป อยากได้ไปก็เหนื่อยเปล่า
จําไว้ว่าการหาคู่นั้นเหมือนการปลูกต้นไม้ หน้าที่เวลาเราปลูกต้นไม้ก็คือการรดนํ้าพรวนดิน แต่ต้นไม้มันจะโตหรือไม่โตอันนี้มันหน้าที่ของต้นไม้ แต่ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการหาคู่ หน้าที่ของเราก็คือ ทําตัวเองให้ดีพร้อมเสมอ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอคนเยอะๆ สิ่งเหล่านี้เราต้องทํา ไม่ต่างอะไรกับการหมั่นรดนํ้าพรวนดิน เมื่อทําแล้วจะไปหวังว่ามันต้องโตต้องได้ตามใจเราอันนี้ มันไม่ถูกต้อง เพราะสุดท้ายเราเองนั่นแหละจะเครีย.. เศร้า.. ไม่มีความสุข จนถึงขนาดอยากเลิกหาคู่เลยก็เป็นได้ ดังนั้นอะไรที่เป็นหน้าที่เรา เราก็ทําไปให้ดีที่สุดแต่จะประสบความสําเร็จหรือไม่นั้นเราก็รู้จักปล่อยวาง
อย่าไปหวังว่าใครจะเข้ามา ถ้าเราเองยังทําตัวไม่ดีพอ
เราใช้เวลาส่วนมากในการมองออกไปข้างนอก เราดูเพื่อนเราในโซเชียลที่มีคู่ก็รู้สึกน้อยใจ เราดูคนอื่นจู๋จี๋กันแล้วก็รู้สึกอิจฉา แต่หลายครั้งสิ่งที่เราลืมมองไปก็คือตัวเราเอง เราอยากได้คู่ที่เป็นคนดี เก่ง ฉลาด จิตใจดี รวย หน้าตาดี และ perfect แล้วเราเองล่ะเป็นคนที่ดีพอสําหรับเขาแล้วหรือยัง? เรามัวเสียเวลาไปกับความเศร้าความเสียใจในโชคชะตาที่หาคู่ไม่ได้ แต่เรากลับไม่เคยคิดที่จะเอาเวลาไปพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม การหาคู่มันก็ต้องเริ่มที่ตัวเรา ทําตัวเองให้ดีก่อน ให้เขาเห็นคุณค่าเราก่อน เดี๋ยวคนดีเขาก็เข้ามาหาเราเอง ถ้าเราเองยังไม่ดีไม่มีค่าพอก็อย่างไปหวังเลย เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ใครล่ะอยากจะได้คนที่ไม่ดีมาเป็นคู่ว่ามั้ย
คนที่perfect ไม่มีจริง มีแต่คนที่ไม่ perfect ที่เรายอมรับในความไม่perfect ของเขาได้
หลายคนหาคู่ไม่สําเร็จเพราะตกหลุมพรางความเชื่อที่ว่าฉันจะต้องเจอคนที่ perfect เท่านั้น แต่ในความจริงแล้วคนที่ perfect ไม่มีอยู่จริง และต่อให้มีจริงเขาก็ไม่เอาเราอยู่ดี มันก็ใช่อยู่ที่ว่าทุกคนมีความต้องการไม่เหมือนกันในการหาคู่ แต่ลึกๆแล้วความสัมพันธ์มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เราอยากได้หรือมองหาจากอีกฝ่าย มากไปกว่าความรักที่คนสองคนมีให้ต่อกัน แต่ปัญหาในยุคสมัยนี้ก็คือเรามักเอาความต้องการมาก่อนความรักจนความต้องการของเรานั้นบดบังโอกาสที่เราจะรักใครบางคน สิ่งที่เราต้องการเข้าใจก็คือ
1) คนที่ perfect มันไม่มีอยู่จริง มีแต่คนที่ไม่perfectที่เรารับเขาได้เท่านั้น และ
2) เราควรลดความต้องการของเราลงบ้างถ้าสิ่งที่เราหาอยู่จริงๆนั้นคือความรัก
ใครที่เครียดจากการหาคู่ที่perfectอยู่และอยากได้ความฮาก็เข้าไปดูคลิปข้างล่างได้:
การมีคู่อาจไม่ได้หอมหวานอย่างที่เราคิด
เดี๋ยวนี้เราชอบตกหลุมพรางของการเสพสื่อจนมองถาพที่สร้างขึ้นในสื่อว่าเป็นเรื่องจริง เราไปเล่นโซเชียล เห็นเพื่อนลงรูปครอบครัวที่ดูแสนจะอบอุ่นและมีความสุข เราเองก็อดรู้สึกน้อยใจและอิจฉาเขาไม่ได้ว่าทําไมเราไม่มีเหมือนเขา แต่สิ่งที่เราเห็นบางทีก็ไม่ใช่ความจริง เบื้องหลังเขาอาจจะทะเลาะกันทุกวันหรือไม่มีความสุขเหมือนในภาพเลยก็เป็นได้ ถ้าถามคนที่มีคู่อยู่แล้ว หลายคนก็พูดว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากอยู่คนเดียวมากกว่า บางคนมีคู่ก็จริงแต่กลับเจอแต่เรื่องเจ็บปวดจนเหนื่อยกับความรัก บางคนกว่าจะพบธาตุแท้ของคู่ตัวเองก็สายเกินไปจนแต่งงานมีลูกแล้วก็อยากเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้ก็มี บางคนโชคไม่ดีมากๆ ก็ได้คู่เป็นอันธพาล ชอบใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ทําร้ายร่างกาย และนําความเดือดร้อนมาให้ บางทีความรักจึงอาจจะไม่ได้หอมหวานอย่างที่เราคิดเสมอไป ดังนั้นการมีคู่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะดีไปกว่าการไม่มีคู่เสมอไป เพราะก็ยังมีคนอีกมากมายที่รู้สึกว่าเขาโชคดีที่ไม่มีคู่
มีก็ดีไม่มีก็ได้
ความรักควรจะเป็นเรื่องที่สวยงามและทําให้เรามีความสุข แต่ทําไมถึงมีแต่ความเครียดผิดหวังและความเจ็บปวดในระหว่างที่เราหาความรัก เหตุก็เพราะว่าเราวางใจผิด คําที่ว่า “มีก็ดีไม่มีก็ได้” นี้คือการวางใจที่ดีที่สุดในการหาคู่ มันแปลว่าไม่ว่าเราจะอยู่คนเดียวเราก็มีความสุขได้ หรือว่าถ้าเรามีคู่ เราก็มีความสุขเหมือนกัน ปัญหาคือคนที่อยากมีคู่จะไม่คิดอย่างนี้ เขาจะคิดว่า “มีก็ดีแต่ไม่มีไม่ได้” พอเราวางใจแบบนี้แล้ว ความสุขของเรามันก็เลยขึ้นอยู่กับการมีคู่ เวลาเรามีคู่เราก็ดีใจ แต่เมื่อใดที่เราไม่มีคู่ชีวิตเราก็หมดความหมาย ไม่มีค่าและไม่มีความสุข อย่างนี้ใช้ไม่ได้ เราควรที่จะรักษาความสุขเราไว้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่ก็ตาม แล้วตอนนี้เรากําลังมองความรักแบบไหน แบบที่ “มีก็ดีไม่มีก็ได้” หรือว่า “มีก็ดีแต่ไม่มีไม่ได้”? ลองคิดดู
ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...
- ไม่มีทางออก
- อาการไม่ดีขึ้น
- พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:
ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ
สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:
แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ
หรือ
Line: @schooloflife
Line: @schooloflife
ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้