เหงา
อยู่กับคนอื่นก็ดีอยู่กับตัวเองก็ได้
แนวทางปฎิบัติต่อความเหงา
หาความสุขเวลาอยู่กับตัวเองให้ได้
คนขี้เหงาคือคนที่ฝากความสุขไว้กับคนอื่น หรือจะพูดอีกแบบก็ได้ว่าเรามีความสุขก็ต่อเมื่อเรามีคนอื่นอยู่ข้างๆเราในชีวิต และรู้สึกว่างเปล่าหรือไม่มีความสุขเวลาเราต้องอยู่คนเดียว ความสุขแบบนี้ไม่ดี เพราะว่ามันจําเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น ต้องมีคนอื่นในชีวิตเพื่อทําให้ชีวิตเรามีความสุข ซึ่งความสุขที่ดีควรเป็นความสุขที่อยู่กับตัวเรา เป็นสิ่งที่เราหาได้ทันทีทุกทีทุกเวลา ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีใคร
ดังนั้นแนวทางในการรักษาอาการเหงาก็คือการที่เราจําเป็นต้องอยู่กับตัวเองให้เป็น หาความสุขกับตัวเองให้ได้ไม่ว่าเราจะอยู่กับคนอื่นหรือว่าเราจะอยู่กับตัวเอง หรือจะถือคติไปเลยก็ได้ว่าเราต้อง "อยู่คนเดียวก็ได้ อยู่กับคนอื่นก็ดี" นี้เป็นเป้าหมายหรือว่าแนวทางในการรักษาอาการเหงาให้ได้อย่างยั่งยืน
การรักษาอาการเหงาด้วยการหอบตัวเองไปหาคนอื่นทุกๆครั้งที่เราเหงา บางทีก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เป็นแค่การบรรเทาอาการเหงา แต่ไม่ได้เป็นการรักษาต้นตอของอาการเหงา ดังนั้นจะหายเหงาได้ก็ต้องเผชิญหน้ากับความเหงาและอยู่กับมันให้เป็น
ความเหงาไม่มีวันหายหากเราเสพติดการอยู่กับคนอื่น
บางทียิ่งเรามีคนในชีวิตมากเท่าไร มันกลับทําให้เรายิ่งเหงามากและง่ายขึ้น เวลาที่เราไม่มีคนเหล่านั้นในชีวิต สาเหตุก็เพราะว่าเรายึดติดกับความสุขที่เราได้เวลาเรามีคนอื่นอยู่ด้วย ดังนั้นการที่เราต้องอยู่กับคนอื่นมาเติมเต็มความเหงาของเราก็ยิ่งทําให้อาการเหงาของเราหยั่งรากลึกไปในใจเรามากเท่านั้น เหมือนเป็นสิ่งเสพติดที่ยิ่งเสพยิ่งมันขาดไม่ได้ และการที่เราออกไปเจอเพื่อนหรือมีคนอยู่ด้วยในชีวิตก็เป็นเพียงการบรรเทาอาการเสพติดเท่านั้น แต่ไม่ได้รักษาแผลหรือต้นตอที่แท้จริงที่เป็นปัญหา นั้นก็คือใจของเราที่ยึดติดกับความสุขของการอยู่กับผู้อื่น แนวทางรักษาที่ถูกต้องก็คืออย่าไปยึดติดกับความสุขที่เราได้จากการมีคนอื่นอยู่รอบข้าง ตอนมีเขาอยู่เราก็ดีใจ ก็ดีแล้ว แต่เวลาที่เขาไม่อยู่กับเรา บทเรียนที่เราต้องเรียนรู้ก็คือการที่เราต้องปล่อยว่างและอยู่กับตัวเองให้ได้อย่างมีความสุขด้วย
ความเหงาเป็นสิ่งที่ทุกคนหนีไม่พ้น
"If you can't avoid it, your only option is to learn to live with it." ถ้าหนีมันไม่ได้ก็ต้องอยู่กับมันให้เป็น
ความเหงาเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็หนีพ้น ในชีวิตก็ต้องมีบางจังหวะที่เราต้องอยู่คนเดียว ยิ่งในโลกสมัยนี้ที่ทุกอย่างอยู่บนอินเทอร์เน็ตแล้ว เรายิ่งมีโอกาสน้อยลงเรื่อยๆในการพบผู้คน หรือว่าในชีวีตเราเอง บางทีเราอาจจะต้องไปเรียนต่อเมืองนอก หรือย้ายถิ่นฐานเพื่อไปทํางาน เราก็ยิ่งต้องอยู่คนเดียว
จากกราฟนี้จากองกรค์ OurWorldInData, ก็ยิ่งตอกยํ่าความจําเป็นที่จะต้องอยู่กับตัวเองให้เป็น เพราะมันโชว์ว่าเมื่อเราแก่ตัวลงเราก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะอยู่คนเดียว(ดูจากเส้นบนสุด)
ชีวิตไม่แน่นอนและไม่เคยเป็นไปตามที่เราหวัง เราไม่สามารถจะไปหวังหรืออยากให้ชีวิตเรามีคนอยู่ด้วยกับเราได้ตลอด เพราะเหตุนี้ การดูแลตัวเอง พึ่งพาตัวเอง และการมีความสุขให้ได้ด้วยตัวเองนี้ก็เป็นทักษะที่ขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ดังนั้นก็เหมือนคําพูดข้างบนที่ว่า "If you can't avoid it, your only option is to learn to live with it." ซึ่งแปลว่า ถ้าหนีมันไม่ได้ก็ต้องฝึกที่จะอยู่กับมันให้เป็น ซึ่งในชีวิตเรานี้ก็คือความเหงานั้นเอง
รู้จักต้นตอของความเหงาของตัวเอง
อะไรคือต้นตอของความเหงาของเรา เรากลัวดูแลตัวเองไม่ได้หรือเปล่าหากเราต้องอยู่คนเดียว เราเอาความหมายของชีวิตเราไปขึ้นอยู่กับคนภายนอกจนไม่เห็นค่าของตัวเองเวลาอยู่คนเดียวหรือเปล่า เรารักคนรอบข้างมากจนเรากลัวที่จะสูญเสียเขาไปหรือเปล่า หรือว่าเราแค่ติดเพื่อนติดสนุก อะไรคือต้นตอของเความเหงาของเรา อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องศึกษา ตรวจสอบ และหาคําตอบจากใจเรา เพราะไม่อย่างนั้นก็รักษาอาการเหงาที่ต้นตอไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเหงาเพราะว่าเรากลัวว่าเราจะอยู่ไม่ได้ อันนี้เราก็ต้องฝึกที่จะอยู่ด้วยตัวเราเองให้มากขึ้น เป็นต้น
ทาทีต่อความเหงาเราเป็นยังไง?
หลายคนเหงาแต่ก็ไม่ได้พยายามออกไปหาเพื่อนติดต่อคนที่เรารัก หรือว่าทําอะไรที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เราอาจจะคิดว่า เราเกรงใจเขาช เราอาจจะคิดว่าการที่เขาไม่ค่อยคุยกับเราช่วงนี้แปลว่าเขาไม่ชอบเราแล้ว เราอาจจะเป็นคนรอความรัก หรือรอให้คนอื่นเข้ามาหาเราก่อน เราอาจจะรู้สึกว่าเราดีไม่พอเลยเลิกที่จะคุยหรือมีความสัมพันธ์กับใคร ความคิดแบบนี้เป็นความคิดที่ขีดขวางให้เรายิ่งตกอยู่ในอาการเหงา มันคือความคิดที่ปิดกั้นตัวเอง ดังนั้นเราควรที่จะเอาความคิดมาพวกนี้มาพิจารณาและเปลี่ยนความคิดใหม่ เช่น เราเกรงใจเพื่อน ไม่กล้าโทรไปหาเพื่อน เพราะดูเพื่อนยุ่ง แต่จริงๆแล้วเพื่อนเขาก็อาจจะยินดีที่จะคุยกับเราก็ได้ หรือไม่เพื่อนเองเขาก็อาจจะรอให้เราติดต่อไปอยู่แต่เพราะเราคิดไปเองว่าเขายุ่งก็เลยเลิกติดต่อกันไป สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ชีวิตไม่เคยรอใคร เราอยากได้สิ่งไหน เราเองต้องทํามัน อย่าไปรอให้ชีวิตเกิดขึ้นกับเรา เราต่างหากต้องทําให้ชีวิตมันเกิดขึ้นมากับตัวเราเอง ถ้าเหงาก็อย่าอยู่เฉยๆเปลี่ยนแปลงความคิดเปลี่ยงแปลงพฤติกรรม อย่ากลัว อย่าคิดไปเอง อย่าคิดแทนคนอื่น ถ้าเราอยากมีไม่เหงาอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีเราก็ต้องกล้าพอที่จะสร้างมันขึ้นมา
ความเหงาไม่น่ากลัวเท่าที่เราคิด
You are never not as alone as you think are.
มุมมองต่อความเหงาของแต่ละคนนั้นแต่ต่างกันไป บางคนก็ชอบที่จะอยู่คนเดียว ส่วนบางคนก็รู้สึกเหงา แต่ถ้าคนอื่นเขาอยู่คนเดียวได้อย่างมีความสุขได้เราเองก็ควรอยู่ได้เช่นกัน มันไม่เกินวิสัยของคนๆหนึ่งที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว ดังนั้น ฝึกเป็นมิตรกับความเหงาดูมันมีเสน่ห์มากกว่าที่เราคิด
วิธีรักษาอาการความเหงา
การฝึกที่จะอยู่คนเดียว
คนขี้เหงาจําเป็นต้องฝึกที่จะอยู่คนเดียว เหมือนทุกอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะกินข้าว อาบนํ้า หรือเข้าห้องนํ้า เราก็ต้องเรียนต้องฝึก การอยู่คนเดียวก็ไม่ต่าง ดังนั้นเราจําเป็นต้องฝึกที่จะอยู่กับความเหงาให้เป็น อยู่กับตัวเองให้เป็น
เวลามีความรู้สึกเหงาอย่าเพิ่งหนีหรือออกไปเจอใคร ลองอยู่กับมันก่อน ตอนแรกอาจจะอยู่ได้เพียง 1 ชั่วโมง ก็ฝึกอยู่ให้นานขึ้นเป็น 2 ชั่วโมง อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็ค่อยๆฝึกที่จะหาความสุขในการอยู่คนเดียวให้เจอ แล้วสุดท้ายเราก็จะไม่กลัวความเหงาและมีความสุขได้ต่อให้เราจะอยู่คนเดียว
เลิกพึ่งพาคนอื่นเพื่อความสุขของตัวเอง
บางทีการออกไปหาคนอื่นเพื่อแก้อาการเหงามันยิ่งทําให้ความเหงามีอํานาจต่อชีวิตเรามากขึ้น คลายๆการที่เราไปให้ท้ายความเหงา มันบอกอะไรเราก็ทําตามนั้น ถ้าเป็นแบบนี้ความเหงามันคือตัวบงการชีวิตเราและเหงาจะไม่มีวันหายไป เหมือนเด็กที่เอาแต่ใจอยากได้ของเล่น การซื้อของเล่นให้กับเขาก็ไม่ได้ทําให้เขาเลิกเอาแต่ใจ หนักไปกว่านั้นเขาจะยิ่งเอาแต่ใจมากกว่าเดิมเพราะเมื่อเขาขอเขาก็ได้ ดังนั้นทางที่ดีเวลาเราเหงา อย่าเพิ่งไปตอบสนองต่อความเหงาโดยการเอาคนอื่นมาเติมเต็มความเหงาของเรา แก้ความเหงาในใจเราก่อน
เลิกเป็นคนน่าเบื่อ
มีคนเคยพูดว่าคนที่อยู่กับตัวเองไม่ได้คือคนที่น่าเบื่อ อย่าเป็นคนน่าเบื่อ หาอะไรให้ตัวเองทํา อยู่กับตัวเองให้ได้อย่างมีความสุข
หาความหมายของชีวิตตัวเองให้เจอ
หลายคนเห็นค่าของตัวเองตามหน้าที่ที่เรามีต่อผู้อื่น หากวันหนึ่งเราไม่มีใครที่ต้องดูแล เราเองก็หมดความหมาย ความคิดแบบนี้ทําให้เรารู้สึกว่างเปล่าเมื่อเราต้องอยู่คนเดียว สิ่งที่เราควรทําก็คือกลับมารักตัวเอง กลับมาหาค่าของตัวเองจากตัวเองให้เจอ ไม่ว่าเราจะมีหรือไม่มีคนอยู่ข้างเราก็ตาม เราอยากอยู่เพื่ออะไร เรายังทําประโยชน์ต่อใครได้บ้างไหม ชีวิตเรามีความหมาย เท่ากับความหมายที่เราให้กับมัน
อย่ารอให้ชีวิตเกิดขึ้นกับเรา
ถ้าเราไม่อยากเหงา อยากมีเพื่อน อยากมีคนรัก อยากมีความสัมพันธ์ที่ดี อย่ารอ เราต้องสร้างมันขึ้นมา เพื่อนคนไหนที่เราอยากคุยด้วยแต่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อก็ลองติดต่อเขาดู ความสัมพันธ์ไหนมันไม่ดีก็ลองแก้ตัวและสร้างมันขึ้นมาใหม่หากเขาให้โอกาส ปกติไม่กล้าเข้าหาคนแปลกหน้า ไม่กล้าคุยกับคนอื่น ก็ฝึกใหม่ ฝึกที่จะเข้าสังคม ข้อสําคัญก็คือ ชีวิตเรา เราต้องทําเอง ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
เลี้ยงสัตว์
ถ้าเป็นไปได้มีวิจัยหลายตัวก็เสนอว่าการเลี้ยงสัตว์ก็ช่วยลดอาการความเหงาของคนได้ อันนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่เราทําได้
ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...
- ไม่มีทางออก
- อาการไม่ดีขึ้น
- พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:
สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:
ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ
สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:
แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ
หรือ
Line: @schooloflife
Line: @schooloflife
ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้