ผลัดวันประกันพรุ่ง

206603 ศุภกร เลาหสงคราม

นักจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychologist)


เข้าใจถึงเหตุที่ทําให้เราผลัดวันประกันพรุ่ง

จะแก้ปัญหาได้เราก็ต้องเข้าใจปัญหาก่อน ซึ่งคําถามที่สําคัญก็คือ มีอะไรบ้างที่กําลังหยุดเราจากการทําสิ่งที่เราควรหรืออยากทํา? มันเป็นเพราะเรา...

  • เราไม่มีวินัยกับตัวเอง ทําอะไรตามความรู้สึกเป็นหลัก ติดความสบาย ไม่อยากทําสิ่งที่ลําบาก แพ้ใจตัวเอง
    • ความมีวินัยก็คือการที่เราทําอะไรบางอย่างไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบมัน คนเราจะฝึกให้มีวินัยได้ก็ต้องฝืนตัวเองให้มากขึ้น จนชิน นอกจากนั้นก็ต้องเข้าใจว่าการที่เราฝืนตัวเองนั้นมันมีประโยชน์ในระยะยาวอย่างไร
  • เราคิดหรือกลัวไปก่อนว่ามันจะยากจะน่าเบื่อและไม่ได้ผลที่ต้องการ (คิดมาก คิดลบ)
    • ความคิดหลายครั้งก็หยุดเราก่อนที่เราจะลงมือทํา ทั้งที่หากเราทํามันลงไปมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดเลยก็เป็นได้ หน้าที่เราก็คือการที่เราจะต้องค่อยสังเกตความคิดและความกลัวของตัวเองเราเอง ให้ค่ามันให้น้อยกว่าการกระทําเสมอ เพราะว่าความคิดและความกลัวนั้นไม่ใช่ความจริง ความจริงเรารู้ได้ก็ต่อเมื่อเราทํามันลงไปจริงๆและได้รับผลจากมันมาจริงๆ เมื่อเราทํามันจริงๆแล้ว มันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เราคิด มันอาจจะง่าย เราอาจจะชอบมันกว่าที่เราคิดก็ได้ ฝึกให้การกระทําพิสูจย์ความจริง อย่าให้ความคิดหรือความกลัวหยุดเราจากสิ่งที่เราควรทําได้
  • ถ้าเราอยากได้อะไรมากพอ เราก็จะหาเวลาและวิธีทํามันจนสําเร็จ การที่เราผลัดวันประกันพรุ่ง อาจจะแสดงให้เห็นว่า จริงๆแล้วเราไม่ได้อยากทํามัน
    • บางทีมันง่ายกว่าที่เราจะหาให้เจอและเข้าใจธรรมชาติของเราเองมากว่าที่เราจะต้องไปต้องบังคับตัวเองให้ทําในสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเองทุกครั้ง ใช่บางทีเราก็ควรที่จะมีวินัยกับตัวเอง แต่เราก็ควรที่จะฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราชอบอะไร เราเก่งงานด่านไหน เราเหมาะกับอะไร เพราะหากว่าเราทําในสิ่งที่ตรงต่อธรรมชาติของเรา มันจะไม่ต้องฝืนและเราจะไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง
  • การจัดวางระบบในชีวิตที่ไม่ดี เช่น ไม่มีการวางแผนชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่การวางแผนว่าแต่ละวันต้องทําอะไร หรือ ไม่มีการติดตามผลลัพธ์ของสิ่งที่เราทําที่ดี ทําให้ชีวิตไม่เอื่อต่อการที่เราจะทําในสิ่งที่เราควรทํา (ไม่มีสมาธิ)
    • หากเรามีสิ่งรบกวนมาก เราอาจจะต้องสร้างสิ่งแวดร้อมให้อํานวยต่อการที่เราจะสิ่งที่เราอยากทํา ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ถ้ามีเพื่อนไปด้วยเราจะอ่านได้ดี เราก็อาจจะต้องเอาตัวเองออกไปอ่านหนังสือกับเพื่อน ระหว่างเราทํางานเราชอบเล่นมือถือจนเสียสมาธิ เราก็อาจจะตั้งใจวางมันไว้ห่างๆเพื่อเราจะได้มีสมาธิกับงาน นี้คือการจัดการสิ่งแวดรอบตัวเองให้เหมาะสมที่สุดในการที่เราจะทําสิ่งที่ต้องการ
  • ไม่ focus มีสิ่งรบกวนเยอะในชีวิต (ไม่มีสมาธิ)
    • หากเรามีสิ่งรบกวนมาก เช่น ติดเกมส์ ติดหนังติดละคร ติดเที่ยว ติดมือถือ ติดsocial สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งรบกวนที่เราต้องจัดการและตัดออกจากชีวิตเรา
  • ปัญหาหรือสิ่งที่ต้องทํามันยาก ใหญ่ และน่ากลัวเกินไป จนทําให้เราไม่เริ่มสักที หรือไม่ได้ย้อยปัญหาให้เล็กพอที่เราจะทําอะไรกับมันได้

อันนี้เป็นแค่บางเหตุผลที่เราควรพิจารณา เพราะแต่ละเหตุผลก็มีวิธีแก้ที่ไม่เหมือนกัน เช่น

สร้างความสม่ำเสมอ

เริ่มจากอะไรเล็กๆไปใหญ่ เพื่อสร้างความมั่นใจ และความมั่นคงในสิ่งที่เราจะทํา atomic habit

จินตณาการว่าเราทํามัน เราจะเห็นอารมณ์ ที่ขัดขวางเราได้ง่าย เป็นการซ้อมทําในความคิดจ เพื่อสร้างความเคยชิน มั่นใจ และ ความเชื่อ

คอย track ความขืบหน้าของตัวเอง เพื่อให้สิ่งที่เราทํานั้นอยู่ในวัสัยตลอด

ทบทวนทุกวันว่าสิ่งที่เราจะทํานั้นมันสําคัญอย่างไร ทําไมเราถึงอย่างทํามัน ให้ 1 เหตุผลกับตัวเองทุกๆวัน

ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...

  1. ไม่มีทางออก
  2. อาการไม่ดีขึ้น
  3. พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:

แบบฟอร์ม Feedback

ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ

สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:

แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ

หรือ

Line: @schooloflife

Line: @schooloflife

ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง