เกลียดตัวเอง

อย่ามองแต่จุดด้อยจนลืมมองไม่เห็นจุดแข็งของตัวเอง

206603 ศุภกร เลาหสงคราม

นักจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychologist)


ฝึกที่จะยอมรับสิ่งที่เราเป็น

คนที่เกลียดตัวเองคือคนที่ไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ถ้าสิ่งที่เราไม่ชอบในตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น ส่วนสูง หน้าตา รูปร่าง สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ก็คือการที่เราต้องยอมรับมัน อยู่กับมันอย่างมีความสุข และจงภมูิใจในสิ่งที่เราเป็น

มันมีฉากหนึ่งในละครเรื่อง Game of Thrones ที่พระเอก Jon Snow คุยกับตัวละครอีกตัวที่ชื่อ Tyrion

Jon Snow เกลียดที่ตัวเองเป็นลูกเลี้ยงคนเดียวในบ้านที่พี่น้องของเขาอีก 5 คนเป็นลูกจริง ซึ่งในยุคกลาง คนมักดูถูกลูกเลี้ยงโดยใช้คําด่าว่า "Bastard" ส่วน Tyrion นี้เป็นคนแคระ แต่ฉลาดปราดเปรื่อง เมื่อ Tyrion เจอ Jon Snow ครั้งแรก ก็แหย่ Jon Snow โดยถามว่าคุณเป็น Bastard หรอ? ซึ่ง Jon Snow ก็เริ่มไม่โอเคละ ทําไมถามเรื่องนี้ เลยหันหน้าเดินหนีไป แต่ระหว่างนั้น Tyrion ก็พูดว่า "ผมทําให้คุณโกรธหรือเปล่า? ผมขอโทษนะ" แล้วก็ย้ำไปอีกว่า "แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณก็เป็นลูกเลี้ยงนี่" เมื่อเห็นสีหน้าของ Jon Snow ที่เริ่มยอมรับความจริง เขาก็ให้คําแนะนําในฐานะคนแคระที่โดนสังคมดูถูกมากว่าคนที่เป็นลูกเลี้ยงว่า "จงอย่าลืมสิ่งที่คุณเป็น เพราะโลกไม่เคยลืมอยู่แล้วว่าคุณเป็นอะไร จงเอามัน[จุดอ่อนของเรา]มาสวมใส่มาประดับตัวเราให้เป็นเหมือนเสื้อเกราะเพื่อที่ใครก็จะไม่สามารถเอามันทําร้ายเราได้" คําพูดนี้คือการยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็น แทนที่จะมองมันว่าเป็นจุดด้อยหรือเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่ชอบ เราควรมองว่ามันเป็นความจริง เมื่อเรายอมรับและเอามันมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราแล้ว มันก็จะไม่เป็นจุดอ่อนของเราอีกต่อไป เพราะมันคือเรา ดังนั้นจงอย่าผลักไสสิ่งที่เราเป็นด้วยความเกลียดชังเลย

ดีหรือไม่ดีบางทีมันแล้วแต่มุมมองไม่ใช่เป็นเรื่องที่ตายตัว

หลายคนที่ผมได้มีโอกาสให้คําปรึกษามักรู้สึกเกลียดตัวเองเพราะรูปลักษณ์ภายนอก ตัวอย่างที่เห็นบ่อยก็คือการที่เราเกลียดตัวเองที่อ้วน แต่ปัญหาของอาการแบบนี้คือ ไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกเกลียดคนอ้วน มันก็อาจมีคนมากมายที่ชอบคนอ้วน เพราะในความเป็นจริงคนจะไม่ชอบอะไรที่เหมือนกันอยู่แล้ว ยกเว้นว่าเราเอาค่านิยมของเราหรือสังคมที่เราอยู่มาเป็นบรรทัดฐานเพื่อให้ค่าตัวเอง ซึ่งค่านิยมเองของแต่ละสังคมก็แตกต่างกับไปและมีการเปลี่ยนไปตามกระแสและกาลเวลา เช่น บางสังคมในประเทศอินเดียชอบคนอ้วนเพราะแปลว่ามีฐานะ ดูเป็นคนมีอันจะกิน ดังนั้น ความอ้วนมันจะดีหรือไม่มันแล้วแต่คนมอง แต่จุดเริ่มต้นนั้น ก็ต้องเป็นที่เราก่อนว่าเราเองมองความอ้วนอย่างไร เมื่อไรที่เราเองยอมรับความอ้วนได้แล้ว ความอ้วนก็จะไม่เป็นปมด้อยของเราอีกเลย และเราเองก็จะเลิกคิดว่าคนอื่นไม่ชอบเราเพราะเราอ้วน หรือไปตัดสินหรือไม่ชอบคนอื่นที่อ้วน นี้มันตรงกับคําพูดที่ว่า:

"เมื่อโลกภายในเปลี่ยนโลกภายนอกก็เปลี่ยนตาม"

อย่ามองแต่จุดด้อยจนลืมมองจุดแข็งของตัวเอง

คนเรามีจุดอ่อนจุดแข็งที่ไม่เหมือนกัน แต่คนที่เกลียดตัวเองส่วนมากแล้วจะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เราเกลียดจนไม่เห็นค่าของจุดแข็งที่เรามี หลายคนมีความคิดที่ว่าถ้าเราอ้วนหรือหน้าตาไม่ดีแล้วจะไม่มีใครมารัก แต่ในความจริงแล้ว ความรักมันก็ไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียว เราต้องดูนิสัยใจคอ ดูความเข้ากันได้ด้วย และดูอะไรอื่นๆอีกมากมายที่มากไปกว่าแค่หน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอก แต่ถ้าคนที่เข้ามาในชีวิตเราเขามองแต่แค่รูปลักษณ์ภายนอกเราอย่างเดียว เขาก็อาจจะไม่คู่ควรกับเรา ถ้ามีคนมาชอบเราเพราะเราเป็นคนที่สวยมากๆ แสดงว่าเขาชอบเราที่รูปลักษณ์ภายนอก เมื่อเราแก่ตัวลงเขาก็ทิ้งเราไปเพราะหน้าตาเราไม่สวยไม่เด็กเหมือนเดิมแล้ว ก็เป็นเหตุผลเดียวกัน คือเขชอบเราที่ รูปลักษณ์ภายนอก แต่ในความเป็นจริงแล้วเราเองยังมีสิ่งอื่นๆอีกมากมายที่สามารถซื้อใจคนได้ และให้เขามาชอบและรักเราได้ อาทิเช่น มีความฉลาด มีมันสมอง มีความขยันหมั่นเพียร มีหน้าที่การงานดี มีวาจาที่ไพเราะอ่อนหวานประทับใจผู้ฟัง มีนิสัยใจคอโอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จ้กดูแลตัวเองและคนรอบข้าง และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้น ...จะให้ใครชอบเราอย่าไปขายจุดอ่อน เราต้องขายจุดแข็งของเราใช่มั้ยครับ

อะไรคือค่าของเรา

อะไรทําให้ชีวิตเรามีค่า ค่าของเราอยู่ตรงไหน นี้คือคําถามที่เราต้องตอบตัวเองให้ได้เพื่อที่เราจะได้ทําชีวิตให้มีค่าและเลิกเกลียดตัวเองเสียที ถ้าเรารู้สึกว่าการที่เราได้ช่วยเหลือผู้อื่นทําให้เราชอบตัวเองได้ นี่เราก็ต้องหมั่นทํามันให้มากๆ ทํามันทุกวัน ทํามันจนเราอดไม่ได้ที่จะชอบตัวเอง

เปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเอง อย่ายอมแพ้ต่อชะตากรรม

สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ก็ให้ยอมรับ แต่สิ่งที่เราไม่ชอบในตัวเองที่เราคิดว่าเรายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็ให้เปลี่ยนแปลงทันที เช่น เราอาจจะไม่ชอบนิสัยอะไรบางอย่างในตัวเอง แต่นิสัยนี้เราสามารถเปลี่ยนได้ เราอาจจะเคยเป็นคนขี้เกียจ เราก็พยายามขยันให้มากขึ้น เราอาจจะเป็นคนชอบคิดลบก็เลิกซะ และฝึกคิดบวกให้มากขึ้น เราอาจจะเคยเป็นคนขี้ระแวงก็เปลี่ยนเป็นคนที่ไว้ใจคนอื่นบ้าง เราอาจจะรู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีค่าก็ใช้ชีวิตให้มันมีค่ามากขึ้น นี้เป็นสิ่งที่เราทําได้ ปัญหาคือ บางทีเรายอมแพ้ต่อชะตากรรมของตัวเองตั้งแต่ต้น เพราะเราคิดว่าเราพัฒนาตัวเองไม่ได้ เราบอกตัวเองว่าเราเป็นคนแบบนี้เปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว แบบนี้เขาเรียกว่าคนที่มีความคิดที่แคบจำกัดเกินไป ถ้าเป็นแบบนี้มันไม่ใช่ว่าเราเปลี่ยนไม่ได้แต่มันแปลว่าเราเองไม่อยากเปลี่ยนต่างหาก ดังนั้น มันก็ทำให้เราไม่มีทางออกนอกจากจะต้องเกลียดตัวเองต่อไป จนสุดท้าย...ถ้าเรามัวจมอยู่กับความเกลียดตัวเองนานๆเข้าก็สามารถเป็นโรค ซึมเศร้าได้เหมือนกัน อันนี้ต้องระวังและควรลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เปลี่ยนแปลง

ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...

  1. ไม่มีทางออก
  2. อาการไม่ดีขึ้น
  3. พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:

แบบฟอร์ม Feedback

ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ

สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:

แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ

หรือ

Line: @schooloflife

Line: @schooloflife

ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Screen Shot 2566-05-31 at 16.21.44

ด้อยค่า

เมื่อค่าที่เราให้กับตัวเองสําคัญกว่าค่าที่คนอื่นให้กับเรา เราจะไม่กลัวคําด่าหรือลอยไปตามคําชมของคนอื่น

#กล่องยาสามัญประจําใจ