เครียด

It is not the load that breaks you down but the way you carry it.

206603 ศุภกร เลาหสงคราม

นักจิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychologist)


เวลาพายุเข้าให้หลบภัย

DALL·E 2023-02-13 10.13.19 - oil painting of a girl taking shelter in a cave from a raging thunder storm by the sea

เวลาพายุของชีวิตถาโถมเข้ามาในชีวิตสิ่งแรกที่เราควรทําคือการหาที่หลบภัย เราไม่สามารถออกจากความเครียดได้ถ้าเรายังหมกมุ่นหรือจมอยู่ในวังวนของสิ่งที่ทําให้เราเครียด ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ เราควรเอาตัวเองออกมาก่อน การเอาตัวเองออกมาจากปัญหาไม่ใช่การหนีปัญหา แต่เป็นเพียงการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ตั้งหลักใหม่ เพื่อมาทบทวน วางแผน และเตรียมตัวเตรียมใจที่จะกลับไปสู้และเผชิญชีวิตใหม่อีกครั้งให้ดีกว่าเดิม

เครียดเพราะไม่ปล่อยวาง

เราอยากให้ทุกอย่างเป็นอย่างใจเรา เราพยายาม เราเหนื่อย เราอดทน เพื่อให้ชีวิตเป็นดั่งใจเรา แต่สุดท้ายแล้ว ยิ่งทํามากเท่าไรเรายิ่งคาดหวัง ยิ่งไม่ปล่อยวางผล และยิ่งมีความอยากมากและเข้มข้นกว่าเดิม นี้ก็คือความเครียด

ความเครียดนี้มันเกิดจากที่เราไม่ปล่อยวางในสิ่งที่เราควรปล่อยวาง

ความจริงของชีวิตก็คือต่อให้เราพยายามหรือยากให้อะไรบางอย่างเกิดขึ้นมากแค่ไหนบางทีชีวิตมันก็ไม่เป็นไปตามที่เราอยากเสมอ ซึ่งถ้าสุดท้ายแล้วผลที่จะออกมามันไม่ใช่อย่างที่เราต้องการ เราก็ยอมรับความจริงไม่ได้ เราก็ปล่อยวางมันไม่ได้ การที่เราไม่ปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามวิถีของมันนี้แหละที่ทําให้เราเครียด

"What's worse, the falling rain, or your resistance to getting wet? The changing winds, or your battle against them? The grass as it grows, or your demand for it to grow faster? This moment, or your rejection of it?"

Jeff Foster

ดังนั้นเราต้องฝึกที่จะปล่อยวาง ปล่อยให้ชีวิตมันเกิดขึ้นตามวิถีของมัน อย่างคําพูดที่พูดว่า...

"อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"

ยอมรับสิ่งที่แย่ที่สุดให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะยังไงความจริงก็คือ เราไม่ได้มีสิทธิไปเลือก ไปหวัง ไปควรคุม ไปสั่ง อะไรกับชีวิตต้องแต่แรกอยู่แล้ว ถ้ามันจะไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ สิ่งเดียวที่เราทําได้ก็คือยอมรับและปล่อยมัน

การที่เราอยากให้ชีวิตเป็นดั่งใจเราอยู่เสมอๆก็คือการที่เราไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปตามวิถีของมันซึ่งนี้ก็คือสาเหตุที่ทําให้เราเครียด เพราะมันขัดกับความจริงของชีวิตที่ไม่เคยเป็นไปตามความอยากของเรา นี้ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่ควรพยายาม จริงๆแล้วเราควรพยายาม พยายามอย่างสุดความสามารถ ความแตกต่างก็คือพยายามแล้วก็พอและปล่อยให้ผลลัพธ์จะออกมาเป็นหน้าที่ของชีวิต อย่าไปอยากมัน

ความเครียดแก้ด้วยการผ่อนคลาย (ทั้งทางกายและทางใจ)

สิ่งแรกๆที่ควรทําและทําได้ง่ายในการบรรเทาอาการเครียดก็คือการผ่อนคลายทางกาย หลายคนเลือกที่คลายความเครียดด้วยการออกกําลังกาย อันนี้ก็ช่วยได้มาก บางคนก็ไปสปา ไปเที่ยว หรือบางคนก็ปลีกตัวเข้าหาธรรมชาติ อันนี้เป็นสิ่งที่เราทําได้เลยเพียงแค่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่เอื้อต่อการผ่อนคลาย หลายครั้งเพียงแค่เราเอาตัวเองออกจากความเครียด เชื่อหรือไม่ครับ ความเครียดก็หายไปเองเลย

อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายทางกายมันจะไม่ยั่งยืนถ้าจิตใจเราไม่ผ่อนคลายตาม เหมือนพาตัวไปเที่ยวทะเลแต่ใจเรากลับยังคิดแต่เรื่องงานหรือสิ่งที่ทําให้เราเครียด แม้ดูเหมือนร่างกายเราสบายแต่จริงๆแล้วจิตใจเรายังว้าวุ่นอยู่ อย่างนี้ก็ถือว่าเรายังไม่ผ่อนคลาย เพราะความเครียดยังคงเป็นเหมือนเงาตามตัวไม่ว่าร่างกายเราจะไปอยู่ที่ไหน ดังนั้นสิ่งสำคัญในการรักษาความเครียด ก็คือการที่เราได้ผ่อนคลายทางจิตใจอย่างจริงจัง

จิตใจคนเราจะผ่อนคลายได้ก็ด้วยการปล่อยวาง ความหมายของการปล่อยวางไม่ได้แปลว่าเรายอมแพ้หรือล้มเลิกในสิ่งที่เราปรารถนา ในทางตรงการข้ามมันคือ การรู้จักวางจิตใจของเราให้ถูกต้องต่อปัญหาที่เกิดขึ้น.. การยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งๆที่เราไม่อยากให้เกิด.. การลดความคาดหวังที่บางทีก็เกินจริง.. การเข้าใจในปัญหา.. การหาคําตอบให้กับปัญหา.. การมีแผนการและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน นี้คือสิ่งที่ช่วยให้ใจเราปล่อยวางได้มากขึ้น ซึ่งก็คือการทําใจให้แข็งแกร่งให้มากพอที่จะเผชิญหน้าและยอมรับกับปัญหา หรือจะเรียกอีกอย่างก็ได้ว่ามันคือการทําใจเราให้ใหญ่กว่าปัญหา

อยากจะแนะนําเทคนิคที่สามารถช่วยให้จิตใจเกิดการปล่อยวางได้ดีขึ้น ดังนี้…

  • แยกแยะระหว่างสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้กับสิ่งที่เราทําอะไรกับมันไม่ได้ บางทีเราก็ไปเครียดในเรื่องที่เราทําอะไรกับมันไม่ได้หรือเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดังนั้นปัญหาที่เราแก้ได้ก็รีบทำไป แต่สิ่งใดที่เราแก้ไข หรือเปลียนแปลงมันไม่ได้ก็ให้ปล่อยวางไป
  • สรุปสิ่งใดที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ให้ตั้งใจ อดทน และลงมือทําสิ่งนั้นทันที

Stress primarily comes from not taking action over something that you can have some control over.

- Jeff Bezos

  • ควรทำใจยอมรับในสิ่งที่แย่ที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้ มีอะไรบ้าง..คือสิ่งที่แย่ที่สุดที่เรายอมรับไม่ได้? แล้วถ้าม้นเกิดขึ้นจริงๆเราจะต้องรับมือกับมันอย่างไร? นี้คือคําถามที่เราควรเตรียมใจไว้สําหรับเผชิญกับสิ่งที่แย่ที่สุด ผลก็คือ เมื่อเราสามารถยอมรับสิ่งที่แย่ที่สุดได้แล้ว เรื่อง อื่นๆ ที่แย่น้อยกว่านี้ก็คงไม่ยากที่เราจะยอมรับได้แน่นอน สรุปง่ายๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดต่อไปนี้เราก็ยอมรับได้หมด

  • มองภาพให้กว้าง ใช่ที่เรามีความเครียด... ใช่ที่เรามีปัญหามากมายที่ต้องแก้ แต่ในความเป็นจริง มันมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมากมาย อย่าจมอยู่แต่สิ่งที่ทำให้เราเครียดจนมองข้ามสิ่งที่เรามีและควรจะดีใจด้วย ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เรายังมีอาหารกินไม่เคยขาด เรายังมีร่างกายที่มีครบสมบูรณ์และแข็งแรง เรายังมีครอบครัวและ มีเพื่อนอีกมากมายที่ยังคอยให้กําลังใจเรา ดังนั้น อย่าจมอยู่ไปกับความเครียด เพราะยังมีสิ่งดีๆในชีวิตที่กําลังรอให้เราไปจัดการและดูแลอีกมากมาย ฉะนั้น อย่ามองแต่ทุกอย่างในแง่ลบ เพราะ ปัญหาที่เรามองว่าใหญ่มันอาจจะเล็กกว่าที่เราคิดมากก็ได้

  • ให้กําลังใจตัวเองบ้างมันจะยากอะไร ไม่มีใครช่วยให้เราหายเครียดได้ถ้าเราเองไม่เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ต่อให้มีคนมากมายมาช่วยเรา มาแนะนําเรา มาชี้ทางออกให้เรา แต่ถ้าเราไม่สู้ ไม่ช่วยตัวเอง ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แล้วมันจะมีความหมายอะไร? ดังนั้นเราควรเป็นเพื่อนที่ดีต่อตัวเอง ยิ่งเวลาเครียด.. เวลามีปัญหา เรายิ่งต้องรักตัวเอง.. ต้องให้กําลังใจตัวเอง และดูแลตัวเองให้มาก

  • เข้าใจว่าชีวิตไม่สามารถเป็นอย่างที่ใจเราต้องการเสมอ บางทีต่อให้เราทําเต็มที่แล้ว หรือทําดีที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายผลมันอาจจะไม่ได้อย่างใจหวัง เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและยอมรับให้ได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เหมือนคําพูดที่ใช้กันว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” หรือแบบในภาษาอังกฤษที่เขาพูดกันว่าบางที่เราก็ต้อง “go with the flow” ที่แปลว่าปล่อยให้มันเป็นไปตามกระแส ชีวิตเป็นไปตามธรรมชาติ มันไม่เคยเป็นไปทุกครั้งตามที่เราหวังอยู่แล้ว ดังนั้นก็ทําให้ดีที่สุดแล้วอะไรจะเกิดก็ยอมรับมันอย่างที่มันเป็น

  • คิดถึงความตาย ทุกคนเกิดมาแล้วก็มีจุดจบเหมือนกันก็คือตาย แล้วเราจะไปเอาอะไรกับมันให้มากมาย เกิดมาเราก็ไม่มีอะไร ตามไปเราก็ไม่ได้เอาอะไรไป สุดท้ายก็ต้องตายจากกันไป สู้อยู่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้อย่างมีความสุขไม่ดีกว่าหรือ?

  • มีแผนที่ชัดเจนในการรับมือกับสิ่งที่ทําให้เราเครียด การที่เราไม่รู้ว่าจะต้องทําอะไรกับปัญหาบางทีก็ทำให้เราแย่ยิ่งกว่าการที่เรามีปัญหาเสียอีก บางครั้งเพียงแค่เรารู้ว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคืออะไร สิ่งที่ดีที่สุดคืออะไร แล้วเราควรต้องทําอย่างไรในการรับมือกับมัน ก็สามารถช่วยบรรเทาให้เราหายเครียดไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว

  • อย่าสับสนระหว่าง การผ่อนคลาย กับ การกลบเกลื่อน หลายคนพอคิดว่าผ่อนคลายก็คือการทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ แต่ถ้าทำแล้วทำให้เราแย่ลง เช่น ไปดื่มสุรา หรือไปติดเกมส์ อย่างนี้ไม่ใช่ทำเพื่อผ่อนคลายแล้ว แต่กลายเป็นการทำเพื่อกลบเกลื่อนความเครียดที่สะสมอยู่ในใจแล้ว ซึ่งสิ่งพวกนี้ไม่ได้แก้ปัญหา อาจจะกลายเป็นการสร้างปัญหาให้เรามากกว่าเดิมอีก สรุป การทำเพื่อผ่อนคลาย ผลที่เกิดขึ้นต้องทำให้เราดีขึ้น ไม่เครียด จึงจะถูกต้อง

คนเครียดเพราะนิสัยเครียด

It is not the load that breaks you down but the way you carry it.

Lout Holtz

ไม่มีมรสุมชีวิตไหนที่จะน่ากลัวไปกว่ามรสุมที่เราสร้างขึ้นในใจเราเอง ชีวิตจะเครียดหรือไม่ บางทีอาจจะขึ้นกับวิธีคิดของเรา และในบางครั้งในเรื่องเดียวกัน บางคนอาจจะเครียดมาก แต่บางคนอาจจะไม่เครียดเลย นี่ก็คือความหมายของคําพูดข้างบนที่แปลเป็นภาษาไทยว่า "ชีวิตที่พังไม่ได้เกิดจากของที่เราแบก แต่พังเพราะวิธีที่เราแบกมันต่างหาก" อันนี้ก็หมายถึง คนที่มีนิสัยเครียด ไม่ว่าเขาจะเห็นอะไรก็ตาม หรืออยู่ในสถานการณ์ไหนๆก็ตาม เขาจะทําให้ทุกอย่างเครียดได้เสมอ นิสัยที่คนเครียดมักจะมีก็คือ...

  1. คิดมาก
  2. คิดลบ
  3. กดดันตัวเอง
  4. ไม่ปล่อยวาง
  5. เอาความอยากนําความเป็นจริง (อยู่กับความจริงไม่ใช่ความอยาก)

นิสัยพวกนี้ล้วนแต่พาให้เราเครียด คิดมากโดยไม่จําเป็น ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับการหาทุกข์ใส่ตัว แต่ที่แย่ไปกว่าก็เพราะการคิดฟุ้งซ่านแบบนี้ไม่มีวันสิ้นสุด การคิดลบก็บั่นทอนจิตใจตัวเองอยู่แล้ว มันทําให้เรื่องที่ไม่ควรจะเครียดกลายเป็นเรื่องเครียและกดดันตัวเองมากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งก็คือการสร้างภาระให้มากดดันตัวเองทั้งๆที่คนอื่นก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากเราเลย การไม่ปล่อยวางก็คือความคิดประเภท "ต้องเอาให้ได้ " แทนที่จะคิดว่า "ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร" หรือจะสรุปโดยย่อก็คือความเครียดเกิดจากการที่เราใช้ชีวิตตามความอยากของเรามากกว่าที่จะปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามความจริง บางทีปัญหาที่เข้ามาในชีวิตมันอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาเท่ากับการที่เราไปทํามันให้เป็นปัญหา นี้เขาเรียกว่าคนเครียดเพราะนิสัยเครียด

จะแก้ไขนิสัยเครียดได้ก็ต้องฝึกจิตใจและพฤติกรรมใหม่ ฝึกให้รู้ตัวเวลาที่เราเริ่มมีอาการหรือนิสัยที่ทําให้เราเครียด เมื่อเรารู้ตัวแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือการเลือกที่จะทํานิสัยใหม่ ขั้นตอนจริงๆมีแค่นี้ ไม่ยากแต่ก็ต้องใช้เวลาฝึกเพื่อให้เกิดความชํานาญในการมองเห็นและรู้จักนิสัยตัวเอง นอกจากนั้น ต้องมีจิตใจที่ตั้งมั่นพร้อมที่จะลด.. ละ..เลิก.. นิสัยเดิมๆและสร้างนิสัยใหม่ให้ได้

วิธีแก้ความเครียดที่ดีที่สุดก็คือการแก้ไขสิ่งที่ทําให้เราเครียด

หน้าที่ของเราต่อความเครียดนั้นมีสองฝ่ายเสมอ หนึ่ง คือการแก้ปัญหาภายในและ สอง คือการแก้ปัญหาภายนอก หน้าที่ภายในที่เราต้องทําก็คือการวางใจของเราให้ถูกกับปัญหา เมื่อวางถูกต้องแล้วเราก็จะยอมรับและปล่อยวางกับปัญหาภายนอกได้ แต่ขอเน้นย้ำว่าการปล่อยวางไม่ใช่การเพิกเฉย ถ้าเรามัวแต่ปล่อยวางโดยไม่แก้ปัญหาก็เท่ากับว่าเราปล่อยประละเลย อันนี้ก็ไม่ถูก ต้องแก้ปัญหาภายนอกที่ทําให้เราเครียดด้วย ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรามัวแต่แก้ปัญหาโดยไม่วางจิตใจเราให้ถูกที่ถูกทาง เราก็จะแก้ปัญหาภายนอกไปด้วยความเคร่งเครียด ดังนั้น หน้าที่ของเราต่อความเครียดก็คือหน้าที่ทางจิตและหน้าที่ทางกิจ ถ้าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขยังไงมันก็ยังมีเหตุให้เครียดได้เสมอ

ความเครียดช่วยให้เราแข็งแกร่ง

DALL·E 2023-03-03 09.08.13 - expressive oil painting of a sunlight shining upon a tree sapling growing out of a ground
expressive oil painting of a sunlight shining upon a tree sapling growing out of a ground - DALL·E

ต้นกล้าที่ไม่เคยเจอแดดหรือเผชิญกับสิ่งแวดล้อมภายนอกนั้นส่วนมากแล้วรากจะไม่แข็งแกร่ง ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ถ้าไม่เคยทำอะไรผิดผลาด ไม่เคยผิดหวัง ไม่เคยมีความเครียด ไม่ได้เจออะไรที่ยากลําบากก็ทำให้เราขาดประสบการณ์ชีวิต ทำให้เราเป็นคนไม่เข้มแข็งมีจิตใจอ่อนแอ เป็นคนที่ทุกข์ง่าย

การที่เราจะเข้มแข็งได้นั้นเราต้องรู้จักการเผชิญหน้า และเรียนรู้ ที่จะอยู่กับความเครียด ความผิดพลาด ความผิดหวัง ที่เดินเข้ามาในชีวิตเรา ถ้าเรารับมือกับมันได้ ประสบการณ์เหล่านี้จะทําให้เราเป็นคนที่เข้มแข็งมากขึ้นและมากขึ้น นี่เป็นการสร้างโอกาสให้เราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น และเมื่อเราสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ เราก็จะได้ทักษะทางชีวิตที่สามารถทําให้เรากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจงขอบคุณความเครียด ความผิดหวัง และขอบคุณปัญหาที่เดินเข้ามาเสมือนเป็นแสงแดดส่องให้ต้นกล้าในใจเราได้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง สมบูรณ์ และมั่นคงต่อๆไป

วิธีปฏิบัติ

ระยะสั้น

  1. พักก่อน
  2. ฝึกที่จะปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปตามวิถีของมันโดยไม่ได้เลิกความพยายาม อย่ายึดติดว่าชีวิตต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ชีวิตมันไม่เคยเป็นไปตามที่เราหวังอยู่แล้ว ดังนั้น ปล่อยมัน อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เราแค่ทําหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดพอ
  3. จัดการและแก้ไขสิ่งที่ทําให้เราเครียดให้สําเร็จ

ระยะยาว

  1. กล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่แย่ที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ ยอมรับมันให้ได้และเตรียมวิธีรับมือมันไว้
  2. รู้จักและเลิกนิสัยที่ทําให้เราเครียด

ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เมื่อ...

  1. ไม่มีทางออก
  2. อาการไม่ดีขึ้น
  3. พยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถใช้บริการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือสอบถามรายระเอียดได้ตามลิงก์นี้:

ปรึกษานักจิตวิทยา

สามารถให้ความคิดเห็นให้ กําลังใจ และช่วยพัฒนาได้ที่:

แบบฟอร์ม Feedback

ขอบคุณทุกความคิดเห็นและจะเอาไปพัฒนากล่องยาประจําใจครับ

สําหรับท่านที่อยากมีกล่องยาสามัญประจําใจไว้ที่บ้านหรือเป็นของฝากให้คนอื่นเมื่อกล่องยาประจําใจตีพิม สามารถติดต่อสั่งจองได้ที่:

แบบฟอร์มสั่งจองกล่องยาสามัญประจําใจ

หรือ

Line: @schooloflife

Line: @schooloflife

ตัวยาอาจจะใช้ได้กับบางคนแต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน โปรคใช้วิจรณญานและเลือกใช้ได้สิ่งที่เรารู้สึกว่าน่าจะใช้ได้ อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง